การเดินทางในฤดูร้อน เราหนีความร้อนในเมืองคอนกรีตมาเข้าป่าสูดออกซิเจนเพิ่มความสดชื่นในสถานที่ Unseen บนเส้นทางชินคันเซน Joetsu/Hokuriku ไล่ตั้งแต่ จังหวัดกุนมะที่อยู่ใกล้โตเกียวมากที่สุด ไปนีงาตะ และนากะโนะ ระหว่าง 20 - 26 ก.ค. 2018 พร้อมกับพาสรถไฟ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
กุนมะ || "หน้าร้อนญี่ปุ่น เก็บพลัม ชมงานแฮนด์เมด แช่ออนเซนที่มินาคามิ"
กุนมะ || "ขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขา วิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ นั่งรถไฟหัวรถจักร ชมงานเทศกาลโชว์สะดือ"
นีงะตะ || “สักการะศาลเจ้า ขึ้นกระเช้า แปลงกายเป็นช่างทำมีด แม่บ้านชาวญี่ปุ่น"
นีงะตะ || "เลี้ยงปลาคาร์ฟ ชมทุ่งบัวชมพู แสงไฟ Illumination แวะอควาเรียม The Sea of Japan"
นากะโนะ || "ไหว้พระพุทธ เข้าเมืองปราสาทอีกา เยือนถิ่นงานคราฟท์ และย่านเมืองเก่า"
1. Zenkoji | วัดเซ็นโคจิ
2. Narai juku | นาราอิ จูกุ
3. Kiso arts & Crafts | คิโสะ อาร์ตส และคราฟท์ส
นากะโนะ || "ชมทะเลสาบสุวะ ฉากสำคัญใน Kimi no Nawa เข้าป่ามอส ชมน้ำตก ดื่มด่ำบรรยากาศเมืองคารุอิซาว่า"
4. Tateishi park | สวนสาธารณะทาเทอิชิ
5. Koke no mori (Moss Forest) | ป่ามอส
6. Otome falls | น้ำตกโอโตะเมะ
7. Shiraito Falls | น้ำตกชิราอิโตะ
8. Kumobai Pond | บ่อน้ำคุโมะไบ
9. Kyu-Karuizawa | ย่านการค้าคารุอิซาว่า
Hokuriku Shinkansen
JOETSUMYOKO Station → NAGANO Station
วันที่ 5
นากะโนะ || "ไหว้พระพุทธ เข้าเมืองปราสาทอีกา เยือนถิ่นงานคราฟท์ และย่านเมืองเก่า"
1. Zenkoji
วัด Zenkoji เป็นวัดพุทธที่ไม่มีนิกายแห่งแรกในญี่ปุ่น ฮงโดหรือวิหารหลัก (ถูกกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ) เป็นที่ประดิษฐานของพระอมิตาพุทธะ 3 พระองค์มาตั้งแต่ปีค.ศ. 1707 ถือเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในวัด หรือที่เรียกว่า "อิคโค ซันซอน อมิดา เนียวไร"
และเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์แรกที่เข้ามายังญี่ปุ่น (พระพุทธรูปของจริงจะเปิดให้ชมทุกๆ 6 ปี ในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ รอบถัดไปจะเป็นปี ค.ศ. 2021)
ภายในวัดมีสัญลักษณ์ทางธรรมมากมาย หนึ่งในนั้นคือการเวียนว่ายตายเกิด ที่มนุษย์หนีไม่ได้ โดยในทางเดินมืดที่อยู่ใต้วิหารหลักแสดงให้เห็นว่าทุกคนต่างเท่าเทียมกัน ในขณะที่กำลังพยายามคลำหาห่วงประตู (สัญลักษณ์กุญแจสู่สรวงสวรรค์) ซึ่งอยู่ในที่มืด เป็นเสมือนการปลดปล่อยตัวเองจากทางโลก พยายามสะท้อนมองตัวเอง และค้นหาความต้องการที่แท้จริงทางจิตใจ
ถนนหน้าซุ้มประตูทางเข้าวัดเซนโคจิเรียกว่า Nakamise
เครื่องรางของฝาก พกไว้เพื่อความสบายใจ
Galerie Ren
บริเวณหน้าวัด มีร้านที่เราสามารถทำกล้องสลับลายหรือ สร้อยข้อมือหินนำโชคในราคา 2,160 เยน เป็นของที่ระลึก ซึ่งราคาถูกกว่าโตเกียว 2 เท่า
10:00-17:00
2 นาที จากวัด Zenkoji
ร้าน Yawataya Isogoro
ถนนหน้าซุ้มประตูทางเข้าวัดเซนโคจิเรียกว่า Nakamise เป็นถนนที่มีร้านรวงขายขนมและของที่ระลึกต่างๆ และร้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ร้านขายพริกป่นที่ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ จุดสังเกตคือกระป๋องพริกที่ดัดแปลงเป็นที่นั่งรอหน้าร้าน พริกคั่วป่นนี้เป็นสูตรพิเศษเพราะมีการเบรนด์พริกและกลิ่นอโรม่า เช่นใบชิโสะ ขิง หรือน้ำมันงาเข้าไป
สาขาหน้าวัด 9:00-18.30
สาขาห้างมิโดริ 9:00-20:00
www.yawataya.co.jp
Midori Nagano
ที่สถานีนากะโนะ จะเห็นห้าง Midori ที่รวมอาหาร ของฝาก เสื้อผ้าแฟชั่น และที่แนะนำมากๆ เลยคือบรรดาร้านโอยะกิ หรือซาลาเปาย่างไส้ผัก เนื้อ และผลไม้ตามฤดูกาล
☆ ความรู้แถม ☆ ใครที่มาเที่ยวละแวกเมืองนากะโนะ แนะนำว่า สถานี Matsumoto ก็เป็นอีกช้อยส์ในการเลือกที่พัก เพราะนอกจากจะมีร้านค้าให้ช้อปปิ้งแล้ว ยังมีไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดคือ ปราสาท Matsumoto หรือปราสาทอีกา ซึ่งถูกสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1592 เป็นศูนย์กลางของเมือง และยังมีฉากหลังเป็นเทือกเขา Japan Alps พร้อมทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route อีกด้วย
2. Narai juku
นาราอิ จูกุ เป็นเมืองเก่าที่มีตั้งแต่ยุคเอโดะ ตั้งอยู่กลางทางระหว่างเกียวโตกับเอโดะ (ชื่อเดิมของโตเกียว) บนเส้นทาง Nakasendo Route ที่นี่จะเป็นจุดแวะพักของการส่งของในสมัยก่อน ถนนจึงกว้างเนื่องจากมีการขึ้นลงสินค้าโดยมีม้าเป็นพาหนะหลัก จึงทำให้ปัจจุบันมีบ้านเรือนดั้งเดิมหลายหลังยังคงสภาพดีกว่าเมืองอื่นๆ
บรรยากาศค่อนข้างจะเงียบสงบ และได้ความรู้สึกสดชื่น รายล้อมด้วยภูเขา แนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมยุคเก่า และนักสะสมงานคราฟท์ประเภทถ้วยซุปมิโสะ กล่องเบนโตะ และอุปกรณ์ในครัว ที่นี่โด่งดังมาก เป็นแหล่งผลิตงานไม้เคลือบแลกเกอร์ที่มีภูมิปัญญาสืบทอดมานานกว่า 600 ปี
แอบกระซิบนิดนึงว่าหากเดินทางมาที่นี่อย่าลืมกินโซบะ โกเฮโมจิ (โมจิราดซอสงา หรือวอลนัท) และโอยากิ (ซาลาเปาไส้ผัก หรือถั่วแดงย่าง) อร่อยสุดๆ และถ้าใครเดินทางเหนื่อยจะพักที่นาราอิ จุกุ ก็น่าสนใจ
3. Kiso arts & Crafts
ใครที่ชอบงานศิลปะ และงานคราฟท์แล้วคิดว่ายังช็อปของฝากไม่จุใจ เชิญมาที่นี่ เพราะเป็นแหล่งของดีของดังประจำเมือง Shiojiri
โดยในยุคกลางเอโดะ Kiso-Hirasawa เป็นหมู่บ้านที่รู้จักกันดีในเรื่องการผลิตงานคราฟท์เคลือบแลกเกอร์หรือที่เรียกว่า Kiso Shikki กลายเป็นแหล่งผลิตของที่ระลึกทำมือที่ได้กระจายไปทั่วญี่ปุ่น โดยมีแหล่งผลิตอยู่ทั้งหมด 150 ที่ และมีช่างฝีมือมากกว่า 700 คน
สินค้าขายดีอันดับ 1 คือ ทัพพีตักข้าวทำจากไม้ ใครที่มาซื้อสินค้าที่นี่ก็เตรียมแบงค์หมื่นมา เพราะอยากให้ซื้อไวน์กลับไปชิม
9:00-17:00
1.7 กิโลเมตรจาก สถานี Kiso-Hirasawa
วันที่ 6
นากะโนะ || "ชมทะเลสาบสุวะ ฉากสำคัญใน Kimi no Nawa เข้าป่ามอส ชมน้ำตก ชมม่านน้ำตก ดื่มด่ำบรรยากาศเมืองคารุอิซาว่า"
4. Tateishi park
ชินไค มาโคโตะ-Shinkai Makoto ผู้กำกับเรื่อง Your name (Kimi no Na wa :君の名は) นำเรืองราวของบ้านเกิดที่นากะโนะมารวมกับเมืองในเรื่องที่ชื่อ Itomori ซึ่งจริงๆ แล้วสถานที่ที่พระเอกนางเอกพบกันครั้งแรกในเรื่องก็คือ ทะเลสาบสุวะ (Lake Suwa) คนที่ดูเรื่องนี้บอกได้คำเดียวว่า ถ้ามองมุมสูงจาก Tateishi park ลงไปที่ทะเลสาบ จะต้องทั้งอินทั้งฟินแน่นอน แนะนำเลยว่า จะให้ฟินแบบพีคๆ ขอให้มากลางคืน หรือจะมาวันที่จัดเทศกาลดอกไม้ไฟในช่วงฤดูร้อนที่มีคนเดินทางมาดูถึง 5 แสนคน เลยก็จะพีคขึ้นไปอีก
จาก Kami-Suwa Station (JR Chuo Line) นั่งแท็กซี่อีก 10 นาที
http://www.city.suwa.lg.jp/www/index.jsp
https://goo.gl/maps/wcggV66QUDB2
☆ ความรู้แถม ☆ จริงๆ แล้วที่เมือง สุวะ นี้ยังมีออนเซนที่มีชื่อเสียง ศาลเจ้า Suwa Taisha และปราสาท Takashima อีกด้วย และไม่อยากให้พลาด เทศกาลดอกไม้ไฟซัมเมอร์ไนท์ ที่จะจุดพลุกว่า 800 นัดทุดวันตลอดเดือน ส.ค.และในวันที่ 15 ส.ค. จะจัดยิ่งใหญ่ที่สุด 4 หมื่นนัด เริ่มตั้งแต่เวลา 20:30 เป็นต้นไป
5. Koke no mori (Moss Forest)
เส้นทางของการเดินป่ารอบๆ จิโนะ (Chino ยังอยู่ในเขตสุวะ) เราขอแนะนำถนนมาร์เชน (Marchen) ที่จะพาคุณไป Shirakoma Pond ตั้งอยู่ในป่ามอสแห่งนี้บนความสูงที่ 2,115 เมตรจากน้ำทะเล ที่โด่งดังมากในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ส่วนในช่วงฤดูหนาว บ่อน้ำจะเป็นน้ำแข็งสามารถเดินบนน้ำได้ แต่ในช่วงฤดูร้อนอย่างที่เรามานี้ จะกลายเป็นป่ามอส (485 พันธ์) ระยะทางเดินตลอด 40 นาทีนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งที่ห่างไกลจากโลกแห่งวัตถุ บรรยากาศเหมือนเรื่อง Princess Mononoke โดยในป่าอากาศค่อนข้างเย็น 19 องศา แม้จะในฤดูร้อนก็ตาม
ทางเดินช่วงต้น ทางเข้าป่ามอส ♪
บรรยากาศเหมือนอนิเมะเรื่อง Princess Mononoke ♫
เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร もののけ姫 ♫ จริงๆ แล้วภูมิทัศน์ที่ปรากฏมาจากป่าโบราณแห่งเกาะ Yaku จังหวัด Kagoshima และภูเขา Shirakami ทางตอนเหนือของฮอนชู
จุดหมายปลายทางของป่ามอส คือที่นี่ Shirakoma Pond
6. Otome falls
น้ำตกโอโตเมะเป็นน้ำตกที่คนสร้าง โดยมีพลังจากธรรมชาติ 20,000 ไมนัสอิออน/ ซีซี ทำให้ผิวสวย ผมดกหนาขึ้นได้ ถ้าเราอยู่บริเวณนั้นนานๆ และในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะ -4 องศา ทำให้น้ำที่ไหลลงมากลายเป็นน้ำแข็งเลยทันที สามารถชมแสงจากพระอาทิตย์ตกสะท้อนกับน้ำแข็งของน้ำตกในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ.
โดยน้ำตกนี้อยู่บนเส้นทางในหุบเขา Yokoya มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติหลายเส้น นักท่องเที่ยวจะเลือกระยะทางสั้นๆ ใช้เวลาเดิน 20 นาที หรือจะเต็ม 3 ช.ม. เพื่อมาชมน้ำตกนี้ก็ได้
7. Shiraito Falls
เข้าสู่เมือง Karuizawa เมืองบ้านพักตากอากาศบนดินแดนที่ไม่มีคำว่า “ร้อน“ มีทั้งบ้านพักตากอากาศเงียบๆ รีสอร์ท โรงแรม ย่านร้านค้าเก่าแก่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่เป็นจุดเด่นประจำที่นี่คือ น้ำตก Shiraito หน้ากว้าง 70 เมตร ตั้งอยู่ในป่าทางทิศเหนือของเมือง
ด้านบนของน้ำตกเป็นทางลาดชันของภูเขาไฟที่กักเก็บน้ำไว้ใต้ดินแล้วไหลออกมาเป็นน้ำตกคล้ายฝนที่ตกลงมาอย่างสม่ำเสมอ นี่จึงอธิบายว่า น้ำตกนี้ไม่เชื่อมต่อกับแม่น้ำสายใด และไม่อิงกับปริมาณน้ำฝน
8. Kumobai Pond
ตั้งอยู่บนเส้นทางจักรยานที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ บ่อน้ำ Kumobai แห่งนี้มีภาพความเขียวหลากสีของต้นโมมิจิสะท้อนกับผิวน้ำได้สวยน่าทึ่งมากๆ และที่นี่ยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ระหว่างกลางเดือน ต.ค. - ต้นเดือน พ.ย. อีกด้วย อากาศจะเย็นๆ แม้กระทั่งเดือน ก.ค.-ส.ค. ที่ถือว่าเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด
ลงป้าย Kumobaike
9. Kyu-Karuizawa
ย่านช้อปปิ้งที่มีเสน่ห์แบบยุโรป เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนม คาเฟ่น่ารักๆ หรือแม้แต่สินค้าแม่บ้านอย่างร้านขายผักดองยังน่าสนใจ เพราะมีผักให้เลือกหลากหลายชนิด และมีตัวอย่างให้ชิม รวมทั้งขนมของฝาก และแยมต่างๆ และอีกร้านที่ต้องห้ามพลาดคือซอฟท์ครีมรสกาแฟ
ลงป้าย Chubudenryokuzen เดินต่ออีก 220 เมตร
เที่ยวกุนมะ นีงาตะ และนากะโนะ สุดประทับใจครั้งนี้ เพราะหมดห่วงเรื่องค่าเดินทางยิบย่อย เพราะเรามีพาสรถไฟ JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) เป็นเพื่อนเดินทาง