ก่อนอื่น เรามารู้จักกับจังหวัดอากิตะกันก่อนดีกว่า จังหวัดอะกิตะ (Akita) ตั้งอยู่ในภูมิภาคโทโฮขุ บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น อยู่เกือบเหนือสุดของเกาะฮอนชู ภูมิภาคนี้ยังคงมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เพียบพร้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม บ่อน้ำแร่ชื่อดังมากมายที่มีส่วนประกอบจากแร่ธาตุหลากหลายชนิดทำให้สี กลิ่นและคุณสมบัติในน้ำแร่แต่ละพื้นที่แตกต่างกันไป และที่คนไทยมักจะคุ้นเคยกับชื่อของจังหวัดนี้คงจะหนีไม่พ้น “สุนัขสายพันธุ์อะกิตะ” แน่นอนว่ามีแหล่งกำเนิดมาจากที่นี่เช่นกัน
หลังจากที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลยามค่ำคืนมาจนถึงสนามบินฮาเนดะในช่วงเช้าของวันที่อากาศสดใส สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการไปแลกพาสรถไฟที่เคาน์เตอร์ของ JR EAST Travel Service ภายในสนามบิน
นั่ง Tokyo Monorail เข้าสู่เมืองเพื่อไป Tokyo Station สำหรับการเดินทางสู่ Akita ด้วยรถไฟความเร็วสูง Komachi ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงก็จะถึงสถานี Tazawako ซึ่งจะเป็นที่หมายแรกของการเดินทางในครั้งนี้
รูปปั้นสีทองของเจ้าหญิงทัตสึโกะผู้งดงามในตำนานท้องถิ่น
Tazawa Lake
เมื่อมาถึงสถานี Tazawako เราเริ่มต้นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของเมืองนี้คือ ทะเลสาบทะซะวะ (Tazawa Lake) ทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะที่เป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดในประเทศถึง 423.3 เมตร แน่นอนว่าความใสของน้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไม่เป็นรองใครอีกด้วย
รูปปั้นหญิงสาวที่ทำจากทองสัมฤทธิ์ที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ในทะเลสาบนั้นมีนามว่า ทัตสึโกะ (Tatsuko) ตำนานได้เล่าขานมาว่าน้ำในทะเลสาบทะซะวะนั้น หากได้ดื่มเข้าไปแล้ว จะทำให้ได้รับความสวยงามที่เป็นอมตะ แต่เธอกลับดื่มน้ำมากเกินไปจนถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเฝ้าทะเลสาบทะซะวะแห่งนี้
ใกล้ๆกันนั้นยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า Kansagu (Ukiki Shrine) ที่มักจะมีหญิงสาวมากมายนิยมมาขอพรในเรื่องของความสาวและความสวย
กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมเวลามาเยือนที่ทะเลสาบแห่งนี้คือการเช่าจักรยานปั่นรอบทะเลสาบและนั่งเรือท่องเที่ยวชมวิวรอบทะเลสาบ โดยใช้เวลา 40 นาทีต่อรอบ และค่าใช้จ่ายประมาณ 1,200 เยน
Kakunodate
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายต่อไปคือ "ย่านคะคุโนะดะเตะ" (Kakunodate) ย่านชุมชนซามุไรเก่าแก่ ในอดีตนั้นจังหวัดอะกิตะเป็นที่ตั้งของชุมชนซามูไรจำนวนมาก บริเวณย่านนี้จึงได้รับการดูแลไว้เป็นอย่างดี ให้คงอยู่ในสภาพเดิม บ้านเรือนบางหลังได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านค้า บางหลังได้รับการอนุรักษ์เป็นพิพิธภัณฑ์
ร้านค้าและบ้านเรื่องย่านคะคุโนะดะเตะ
ร้านค้าและบ้านเรื่องย่านคะคุโนะดะเตะ
ร้านค้าและบ้านเรื่องย่านคะคุโนะดะเตะ
พิพิธภัณฑ์ Aoyagi House
ขอแนะนำพิพิธภัณฑ์บ้านอะโอยะงิ (Aoyagi House) ด้านในเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ของซามุไรชั้นสูง ประกอบไปด้วยอาคารหลายหลัง แต่ละตัวอาคารมีการนำเสนอข้อมูลในด้านประวัติศาสตร์ และการจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆของซามูไรในยุคก่อนเอาไว้ให้ศึกษา
ข้าวของเครื่องใช้ของซามูไรในยุคก่อน
ข้าวของเครื่องใช้ของซามูไรในยุคก่อน
ข้าวของเครื่องใช้ของซามูไรในยุคก่อน
ข้าวของเครื่องใช้ของซามูไรในยุคก่อน
เนื่องจากคะคุโนะดะเตะนั้นกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง สำหรับผู้ที่อยากจะเที่ยวชมให้รอบหมู่บ้าน สามารถเลือกใช้บริการจากรถลากคินนิกฉะ รถลากโบราณสีแดงที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้เสมือนย้อนยุคกลับไปในสมัยนั้น ขณะนั่งผู้ลากก็จะทำหน้าที่ไกด์คอยบอกเล่าข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ
ดูๆไปแล้วบรรยากาศของย่านนี้อาจจะคล้ายๆกับเกียวโต หลายๆคนจึงเรียกที่นี่ว่าเป็น "Little Kyoto" หรือเกียวโตน้อย ในแต่ละปีจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนคาคุโนะดาเตะนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนเมษายน - พฤษภาคม ช่วงที่ซากุระพันธุ์ชิดาเระนับร้อยต้นออกดอกบานสะพรั่งจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ