เผยโฉมลวดลายชุดกิโมโนของประเทศไทย ที่ประเทศญี่ปุ่นมอบให้ 196 ประเทศทั่วโลกในงานโอลิมปิก 2020

แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกพักใหญ่ๆ ก่อนที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 จะเริ่มขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าญี่ปุ่นนั้นเริ่มเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันกันอย่างจริงจังสมกับการเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นเจ้าภาพ มักจะมีข่าวคราวต่างๆ มาให้เราได้ยินอยู่เป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งพื้นทางเดินของสนามบินนาริตะเป็นลู่วิ่งเพื่อสร้างบรรยากาศ หรือการประกาศว่าเหรียญโอลิมปิกในครั้งนี้จะทำมาจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ จนได้รับคำชมทั้งเรื่องแนวคิดและการกระตุ้นให้เห็นถึงความสำคัญของการรีไซเคิลขยะได้เป็นอย่างดี ไปจนถึงการเพิ่มป้ายและสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมรับแขกชาวต่างชาติจำนวนมากระหว่างการแข่งขัน

นอกจากด้านการท่องเที่ยวและการคมนาคมที่เริ่มเตรียมตัวกันอย่างจริงจังแล้ว ล่าสุดในด้านวัฒนธรรมนั้นก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน โดยประเทศญี่ปุ่นได้นำการแต่งกายอันเป็นเอกลักษณ์จนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่าง ”กิโมโน” มาสร้างบรรยากาศต้อนรับการแข่งขันโอลิมปิก 2020 ด้วยการทำโครงการ “Imagine One World Kimono Project” ซึ่งเป็นโครงการที่จะออกแบบชุดกิโมโนด้วยลวดลายต่างๆให้กับเจ้าภาพทั้ง 196 ประเทศที่จะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้
โดยล่าสุดนั้น ทางเว็บไซต์ของโครงการ “Imagine One World Kimono Project” ก็ได้เผยโฉมลวดลายกิโมโนของทั้ง 196 ประเทศออกมาแล้ว สำหรับชุดกิโมโนของประเทศไทยนั้นถูกนำเสนอด้วยลวดลายสีเหลืองอันงดงามของ "ดอกราชพฤกษ์" ซึ่งเป็นทั้งดอกไม้มงคลและดอกไม้ประจำชาติไทย บวกกับลวดลายของ "โคมยี่เป็ง" สัญลักษณ์ของวัฒนธรรมไทยที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และ "ช้าง" สัตว์ประจำชาติไทย ซึ่งทั้งหมดถูกผสมผสานกันอย่างลงตัว

ในส่วนของผ้าโอบิ หรือผ้าคาดเอวของชุดกิโมโนนั้น ก็ถูกถ่ายทอดเป็นลายกนก ลายไทยโบราณอันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับสีสันของธงชาติไทยที่เป็นแนวยาวตลอดผืนผ้าโอบิ ซึ่งเมื่อนำมาประกอบกันเป็นชุดกิโมโนที่สมบูรณ์แล้ว จึงออกมาเป็นชุดที่แสนสวยงาม และไม่ว่ามองจากมุมไหนก็สัมผัสได้ถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน

โครงการนี้จัดขึ้นโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร “Imagine One World Incorporation” มีจุดประสงค์หลัก 3 ข้อคือ

1. เพื่อนำเอกลักษณ์ประจำชาติของแต่ละประเทศมาถ่ายทอดเป็นลวดลายบนชุดกิโมโน และผ้าโอบิ ซึ่งเป็นชุดประจำชาติของชาวญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
2. เพื่อสื่อสารไปยังทุกประเทศทั่วโลกถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และถ่ายทอดความงามทางวัฒนธรรมและศิลปะผ่านทางชุดกิโมโนไปทั่วโลก
3. ช่วยอนุรักษ์วัฒนธรรมการแต่งกายแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ซึ่งในปัจจุบันถูกให้ความสำคัญน้อยลงจากการแทนที่ด้วยการแต่งกายแบบตะวันตก และหวังว่าการทำโครงการนี้จะช่วยฟื้นฟูกระแสการแต่งกายด้วยชุดกิโมโนให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

แม้ว่าการแข่งขันโอลิมปิก 2020 นั้นจะยังไม่เริ่มขึ้น แต่โครงการอันน่าประทับใจเช่นนี้คงทำให้ทั้งประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลกนั้นสัมผัสถึงความเอาใจใส่ และการต้อนรับอย่างอบอุ่นของเจ้าภาพประเทศญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี

ที่มาข้อมูลและภาพประกอบ : piow.chips.jp

FOLLOW US ON
FACEBOOK