Movie Review : รีวิว Life is fruity (人生フルーツ) เพราะชีวิตคือการบ่มเพาะ…รอคอยผลลัพธ์ที่หอมหวาน

Life is fruity (人生フル) ภาพยนตร์สารคดีที่ชนะรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม ประจำปี 2017 จากเวที Kinema Jumpo Award ถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักวัยชราคู่หนึ่ง ที่มีวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ดำรงชีวิตอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ท่ามกลางสวนผักและผลไม้หลากหลายชนิด โดยผู้กำกับเคนชิ ฟูชิฮาระ (Kenshi Fushihara) และได้คุณคิริน คิกิ (Kirin Kiki : 希林 樹木) ผู้ล่วงลับ เป็นผู้บรรยายภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้

ชูอิจิ ซึบาตะ (Shuichi Tsubata : 津端修一) สถาปนิก วัย 90 ปี และซึบาตะ ฮิเดโกะ (Tsubata Hideko : 津端英子) ภรรยาของเขา อายุ 87 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดไอจิ สวนของพวกเขามีผัก 70 ชนิดและผลไม้อีก 50 ชนิด ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ได้ฉายภาพชีวิตประจำวันของพวกเขาทั้งสอง ในการดูแลพืชผักและสิ่งมีชีวิตที่รายล้อมอยู่ในสวน พร้อม ๆ ไปกับดื่มด่ำกับความรักอันยาวนานกว่า 65 ปีของคนทั้งคู่ รวมไปถึงการใช้ชีวิตแบบทำ(เกือบ)ทุกอย่างด้วยตัวเอง ชิค ๆ คูล ๆ ตามประสาตายาย ที่ทำให้คนดูร้องว้าว ไม่ว่าจะเป็นการผลิตปุ๋ยหมัก ปีนต้นไม้เพื่อเก็บผลผลิตเอง นำผลผลิตที่ได้แจกจ่ายให้คนรู้จัก สานสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านและคนสนิทด้วยการประดิษฐ์โปสการ์ดทำมือ ในสายงานสถาปนิก ด้วยวัยเฉียดร้อย ก็ยังมีคนรุ่นใหม่ ๆ ขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการวางผังเมืองจากคุณชูอิจิ

เนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอยล์

นอกจากจะพูดถึงบ้านในสวนแล้ว ภาพยนตร์ยังพูดถึงหน้าที่การงานของคุณชูอิจิ ซึบาตะ ในอดีตอีกด้วย กับตำแหน่งหัวหน้าในการวางผังเมืองใหม่ หลังจากประเทศถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การพยายามสร้างผังเมืองที่ใกล้ชิดธรรมชาติและรักสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่การสร้างผังเมืองตามแผนที่ได้วางไว้ เพราะการวางผังเช่นนั้นจะไม่สามารถสร้างจำนวนที่อยู่ได้มากที่สุด การพัฒนาเมืองใหม่ที่เศรษฐกิจต้องมาก่อนการใส่ใจในเรื่องความเป็นอยู่ที่ดี สุดท้ายแผนการวางผังเมืองของเขาก็ถูกพับไป แทนที่ด้วยแผนใหม่ที่ตอบสนองความต้องการในขณะนั้นมากกว่า ด้วยเจตจำนงอันแน่วแน่ของเขา จึงเกิดสถาปัตยกรรมและผังเมืองในยุคต่อมาที่บางแห่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในปัจจุบัน

ถึงจะสูงวัย แต่ใจยังคงมีความฝัน เมื่อปีกแห่งฝันทำงาน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สายตาก็จะมุ่งไปข้างหน้าเพื่อมองอนาคต

มากไปกว่านั้น ภาพยนตร์ยังได้เผยให้เห็นเคล็ดลับการครองเรือนของคนทั้งคู่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่า 65 ปี สิ่งที่ทำให้อยู่กันยืด ไม่ใช่การบอกรักด้วยวาจากันทุกวัน แต่เป็นการบอกรักด้วยการกระทำ การเอาใจใส่ดูแลกัน สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการให้อิสระทางความคิดแก่กัน เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้แสดงความคิดเห็น และการที่ต่างคนต่างมีความรู้สึกว่าอีกคนคืออีกครึ่งหนึ่งของชีวิต ไม่สามารถแยกจากกันได้ คงทำให้คนดูสัมผัสได้กับคำว่ารักแท้มีอยู่จริง

“เมื่อลมพัดมา ใบไม้จึงร่วงหล่น เมื่อใบไม้ร่วงหล่น ดินจึงอุดมสมบูรณ์ เมื่อดินอุดมสมบูรณ์ ผลไม้จึงงอกงาม ทีละเล็ก ทีละน้อย…” ประโยคที่กล่าวย้ำเตือนว่า เพราะชีวิตคือการบ่มเพาะ…รอคอยผลลัพธ์ที่หอมหวาน

แหล่งที่มา : tokaidoc

FOLLOW US ON
FACEBOOK