นอกจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นแล้ว หนังอนิเมชั่นก็เป็นอีกหนึ่งผลงานของชาวญี่ปุ่นที่ได้รับเสียงชื่นชมจากคนทั่วโลก บางเรื่องได้รับรางวัลออสการ์ บางเรื่องถูกฮอลลีวู้ดซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมก รวมถึงมีหลายเรื่องที่สร้างรายได้อย่างมหาศาล ลองมาดูกันดีกว่าว่า 5 ภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น ที่ทำรายได้สูงสุดจนถึงปัจจุบันมีเรื่องอะไรกันบ้าง
1.หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ Your Name 君の名は (2016)
Your Name หรือ Kimi no Na wa คือภาพยนตร์อนิเมชั่นของ ชินไค มาโคโตะ ที่สร้างปรากฏการณ์มากมายในปี 2016 ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นอันดับหนึ่ง Box Office ในญี่ปุ่นด้วยยอดขายตั๋วสูงถึงหนึ่งหมื่นแปดล้านเยนในช่วงเปิดตัว แถมยังเป็นหนังที่ได้รับความนิยมชนิดมีผู้คนดูอัดแน่นทุกรอบการฉายยันแถวหน้าสุด กินเวลายาวนานหลายเดือน พร้อมทำสถิติล้มแชมป์เก่า แซงหน้าขึ้นเป็นหนังแอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล ด้วยตัวเลขรวมได้เงินไปถึง 11,816 ล้านบาท กระทั่ง เจ.เจ. แอบรัมส์ ผู้กำกับชื่อดังขอซื้อลิขสิทธิ์ไปรีเมกเป็นหนังฮอลลีวู้ดเวอร์ชั่นคนแสดง รวมถึงมีแฟนๆทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติเดินทางไปตามรอยโลเคชั่นในอนิเมชั่นเรื่องนี้ในสถานที่จริงซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโตเกียว
Your Name เรื่องราวของความรักและปาฏิหาริย์ ของ มิตสึฮะ เด็กสาวมัธยมปลายในชนบทที่อยากไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ กับ ทากิ เด็กหนุ่มมัธยมปลายในเมืองใหญ่ที่อยากออกไปใช้ชีวิตในชนบท และในคืนหนึ่ง มิตสึฮะ ได้ฝันว่าเธอกลายเป็นเด็กผู้ชายที่อาศัยอยู่ในเมือง ตรงกันข้าม ทากิ เอง ก็ฝันว่าเขากลายเป็นเด็กสาวอาศัยอยู่ในชนบท
อนิเมชั่นเรื่องนี้ถูกยกย่องว่าแทบจะไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม มีทั้งความตลก ความโรแมนติกที่เล่นกับโชคชะตา พรหมลิขิต ได้อย่างน่าสนใจ มีความไซไฟเหนือธรรมชาติหน่อยๆ แต่ยังคงความเหงาและความเศร้าบาดลึกที่เป็นลายเซ็นต์ของ มาโคโตะ ผู้กำกับ เจืออยู่ ขณะเดียวกันก็มีการปรับโครงเรื่องให้มีความป๊อปปูล่า มีเนื้อหาที่เข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าผลงานเรื่องก่อนๆของเขา เมื่อบวกกับงานสร้างที่พัฒนาทั้ง ลายเส้นตัวละคร ความสวยงามของภาพ ฉากไฮไลท์บนท้องฟ้าสวยๆ จึงกลายเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซในวงการอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลก
ผู้กำกับ : ชินไค มาโคโตะ : Shinkai Makoto (新海 誠)
นักแสดง (พากย์เสียง) : คามิคิ เรียวโนสุเกะ : Kamiki Ryunosuke (神木 隆之介), คามิชิราอิชิ โมเนะ : Kamishiraishi Mone (上白石 萌音), นาริตะ เรียว : Narita Ryo (成田凌)
2. มิติวิญญาณมหัศจรรย์ Spirited Away 千と千尋の神隠し (2001)
Spirited Away ได้ชื่อว่าเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นในตำนานของญี่ปุ่น เพราะผลงานของ มิยาซากิ ฮายาโอะ ผู้กำกับและผู้ก่อตั้งค่ายสตูดิโอ จิบลิ - Studio Ghibli สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมในปี 2002 มาครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นผลงานหนังอนิเมชั่นฝีมือคนเอเชียเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ และเป็นหนังอนิเมชั่นเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลหมีทองคำจากเทศกาลหนังเบอร์ลิน โดยนอกจากจะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการภาพยนตร์โลกแล้ว Spirited Away ยังทำรายได้ถล่มทลายไปกว่า 9,517 ล้านบาท จนสามารถครองอันดับ 1 ภาพยนตร์อนิเมชั่นญี่ปุ่นที่เงินสูงสุดตลอดกาลยาวนานหลายปี จนมาถูก Your Name แซงหน้าไปในปี 2016
หนังเล่าเรื่องราวของ จิฮิโระ เด็กหญิงวัย 10 ปี จอมงอแงและดื้อรั้น ที่่กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางย้ายมาบ้านใหม่กับพ่อแม่ แต่กลับหลงเข้าไปในอีกมิติหนึ่งโดยบังเอิญ ทำให้พ่อแม่ของเธอถูกสาปเป็นหมู และเธอจะต้องติดอยู่ในมิติที่เต็มไปด้วยภูตผีและเรื่องราวมหัศจรรย์ที่เธอไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
Spirited Away ผลงานลำดับที่ 10 จากสตูดิโอจิบลิได้รับการพูดถึงอย่างมากในแง่ของการเป็นหนังอนิเมชั่นแฟนตาซีที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง น่าจดจำ เหมาะกับให้ผู้ใหญ่ดูมากกว่าเด็ก เนื่องจากมีเนื้อหาที่เสียดสีสังคมโลก พูดถึงเรื่องของจิตวิญญาณได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงแฝงสัญลักษณ์และแง่คิดต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องปรัชญาของชีวิต มีความ Coming of age หน่อยๆ ขณะที่งานภาพก็งดงามตระการตา แปลกใหม่ จนหลายคนบอกว่านี่คือ อลิซ อิน วันเดอร์แลนด์ เวอร์ชั่นเอเชีย นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่โด่งดังไม่แพ้ จิฮิโระ ก็คือ เจ้าผีไร้หน้า (カオナシ Kaonashi) ที่ปัจจุบันมีสินค้าของตัวละครตัวนี้ถูกผลิตออกมาจำหน่ายมากมาย
ผู้กำกับ : มิยาซากิ ฮายาโอะ : Miyazaki Hayao (宮崎 駿 )
นักแสดง(พากย์เสียง) : ฮิอิรากิ รูมิ : Hiiragi Rumi (柊 瑠美), อิริโนะ มิยุ : Irino Miyu (入野 自由), นัตซึกิ มาริ : Natsuki Mari (夏木 マリ)
3. ปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ Howl's Moving Castle ハウルの動く城 (2004)
Howl's Moving Castle คือหนังอนิเมชั่นเรื่องที่ 13 ของค่ายสตูดิโอจิบลิ เจ้าของฉายาวอลต์ดิสนีย์แห่งเอเชีย ดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่องดังชื่อเดียวกัน ของ ไดอาน่า ไวนน์ โจนส์ ผลงานการกำกับของ มิยาซากิ ฮายาโอะ ที่กลับมานั่งแท่นเป็นผู้กำกับอีกครั้ง หลังเคยประกาศเกษียณอายุไป เนื่องจาก โฮโซดะ มาโมรุ ผู้กำกับรุ่นใหม่ที่ต่อมามีผลงานมากมายอย่าง Summer Wars, Wolf Children, The Boy and The Beast ขอลาออกจาก Studio Ghibli ซึ่งการเปลี่ยนตัวผู้กำกับกะทันหันก็ไม่ทำให้หนังเรื่องนี้มีปัญหาเลย Howl's Moving Castle ได้รับคำชมในแง่ของภาพยนตร์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในปี 2005 แม้จะไม่ได้รางวัล แต่หนังก็ทำเงินไปถึง 7,742 ล้านบาท ขึ้นมาติดที่ 3 อนิเมชั่นรายได้สูงสุดตลอดกาลของญี่ปุ่น
Howl's Moving Castle เล่าเรื่องราวในยุคที่บ้านเมืองกำลังตกอยู่ภายใต้ไฟสงครามจากกองทัพ โซฟี หญิงสาววัย 18 ปี ซึ่งรับหน้าที่ในการสานต่อกิจการร้านหมวกจากพ่อ ได้รับการช่วยเหลือจากพ่อมดนามว่า ฮาวล์ ระหว่างทางที่เธอไปหาน้องสาวและถูกทหารลวนลาม จนเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เธอต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างฮาวล์และแม่มดแห่งทุ่งร้าง
อนิเมชั่นโรแมนติกแฟนตาซีเรื่องนี้สามารถผสมผสานเรื่องราวความรักท่ามกลางสงครามได้อย่างลงตัว รวมถึงงานภาพก็ถูกรังสรรค์ออกมาได้สวยงาม ละเอียดลออ ฉากที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมคือฉากวิวทิวทัศน์ที่มีความวิจิตรพิศดาร ขณะที่ตัวหนังแฝงแง่คิดหลายอย่าง ตีความไปไกลกว่าต้นฉบับ ทั้งการต่อต้านสงคราม รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจในเรื่องความหวัง ความฝัน และความรัก
ผู้กำกับ : มิยาซากิ ฮายาโอะ : Miyazaki Hayao (宮崎 駿 )
นักแสดง(พากย์เสียง) : คิมุระ ทาคุยะ : Kimura Takuya (木村拓哉), ไบโช จิเอโคะ : Baisho Chieko (倍賞 千恵子), มิวะ อากิฮิโระ : Miwa Akihiro (丸山 明宏)
4. โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย Ponyo 崖の上のポニョ (2008)
Ponyo เป็นผลงานลำดับที่ 15 ของ Studio Ghibli ฝีมือการกำกับเรื่องที่ 8 ของ มิยาซากิ ฮายาโอะ พ่อมดแห่งวงการอนิเมชั่นที่นำเรื่องเล่าจากตำนานแห่งท้องทะเลของญี่ปุ่นมาถ่ายทอดผ่านตัวละครสุดน่ารักที่กลายมาเป็น 1 ในขวัญใจของแฟนหนังค่ายนี้ กับคาแร็กเตอร์ เจ้าหญิงน้อยแสนซน โปเนียว Ponyo ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของจิบลิ ไม่ว่าจะเป็นความคิดสร้างสรรค์ ภาพ และเนื้อหาที่ไม่ตกยุค ทำให้อนิเมชั่นเรื่องนี้กวาดรายได้ไปสูงถึง 6,642 ล้านบาท ได้รางวัลภาพยนตร์การ์ตูนยอดเยี่ยมแห่งปี 2009 ของญี่ปุ่นมาครอง และรั้งอันดับ 4 หนังอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล
เรื่องย่อ Ponyo มีเนื้อหาเกี่ยวกับเจ้าหญิง โปเนียว ลูกปลาที่ถือกำเนิดจากฟองอากาศในท้องทะเล โดยมีพ่อเป็นมนุษย์ ชื่อว่า ฟูจิโมโตะ ผู้รังเกียจมนุษย์ด้วยกัน จนหนีมาใช้ชีวิตใหม่ใต้ท้องทะเลกับ แกรน มามาเร่ แม่ของโปเนียว และเป็นเทพธิดาแห่งมหาสมุทรผู้แสนใจดี แต่ด้วยความซุกซน โปเนียวได้ออกมาท่องเที่ยวบนผิวน้ำทะเล และได้พลัดหลงจนได้มาพบกับ โซสุเกะ เด็กมนุษย์วัย 5 ขวบ ด้วยความใจดีและเป็นเด็กที่อ่อนโยนของโซสุเกะ จึงได้นำโปเนียวมาเลี้ยง ระหว่างนั้นเอง ฟูิจิโมโตะ ก็ออกเดินทางตามหาลูกสาวของตน นำมาซึ่งการผจญภัยสุดมหัศจรรย์ของ โปเนียว และ โซสุเกะ
Ponyo บอกเล่าเรื่องราวระหว่างมนุษย์และเทพธิดาแห่งมหาสมุทรที่แสนงดงาม แม้ว่าจะมีเนื้อหาที่เบากว่าเรื่องอื่นๆในช่วง 4-5 ปีของสตูดิโอจิบลิ แต่ก็ยังแฝงแนวคิดเรื่องธรรมชาตินิยม บทคมคาย มีซีนที่ซาบซึ้งจนบางคนอาจนํ้าตาไหล ด้านงานภาพเคลื่อนไหว ลายเส้นตัวละคร เต็มไปด้วยเสน่ห์ ฮายาโอะ ยังคงร่ายมนต์สะกดคนดูได้อยู่หมัด กับฉากสวยๆตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะความงดงามของโลกใต้ท้องทะเลที่คล้ายงานศิลปะสุดวิจิตรบนจอหนัง ถือว่า Ponyo คือ 1 ในผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ มิยาซากิ ฮายาโอะ
ผู้กำกับ : มิยาซากิ ฮายาโอะ : Miyazaki Hayao (宮崎 駿 )
นักแสดง(พากย์เสียง) : ยามากุจิ โทโมโกะ : Yamaguchi Tomoko (山口智子), นากาชิม่า คาซุชิเกะ : Nagashima Kazushige (長嶋 一茂), ฮิอิรากิ รูมิ : Hiiragi Rumi (柊 瑠美)
5. โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป Stand by Me Doraemon ドラえもん (2014)
Stand by Me Doraemon ผลงานจากค่าย ฟูจิโกะ มูฟวี่ สตูดิโอ ภายใต้การกำกับของ ยามาซากิ ทาคาชิ จาก Always sunset on third street และ ยางิ ริวอิจิ จาก Friends : Mononoke Shima no Naki กับครั้งแรกของโดราเอมอนในเวอร์ชั่น 3 มิติ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบอายุ 80 ปีของ อ.ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ เจ้าของผลงานการ์ตูนโดราเอมอนผู้ร่วงลับ โดยใช้เวลาผลิตถึง 3 ปี แต่ก็คุ้มค่าเมื่อหนังได้รับกระแสตอบรับดี เข้าฉายใน 36 ประเทศทั่วโลก ทำรายได้รวม 6,039 ล้านบาท ยึดอันดับ 5 ภาพยนตร์อนิเมชั่นทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของญี่ปุ่น
Stand by Me Doraemon เริ่มต้นด้วยการมาเยือนของ โนบิ เซวาชิ หลานชายของโนบิตะจากโลกอนาคตในศตวรรษที่ 22 กับความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของโนบิตะ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โนบิตะได้แต่งงานกับ ไจโกะ น้องสาวไจแอนท์ จึงได้ส่งโดราเอมอนย้อนอดีตกลับคอยช่วยเหลือโนบิตะพร้อมกับของวิเศษต่างๆ แต่ก่อนที่พวกเขาจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการทำให้โนบิตะได้มีความสุขในอนาคต โนบิตะก็พบความสุขของตัวเองในโลกปัจจุบันกับการมีโดราเอมอนคอยอยู่เคียงข้าง ในขณะที่โดราเอมอนกำลังจะต้องถูกบังคับกลับไปยังโลกอนาคต โนบิตะ จะเปลี่ยนแปลงอนาคตของเขาได้หรือไม่ และ โดราเอมอน มีความลับอะไรปิดบังอยู่กันแน่?
Stand by Me Doraemon เป็นภาพยนตร์ที่เรียกรอยยิ้มและน้ำตาแฟนๆเจ้าแมวสีฟ้าได้ไม่ยาก ให้ความรู้สึกคล้ายกับได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าในวัยเด็กอีกครั้ง กับความทรงจำต่างๆที่คุ้นเคย เรื่องราวของโดราเอมอนที่คอยช่วยเหลือโนบิตะด้วยเหล่าของวิเศษจากกระเป๋าของเขา ซํ้าแล้วซํ้าเล่า ทว่าครั้งนี้มันต่างจากเดิมตรงที่ว่า เราจะได้เห็นโนบิตะไม่มีโดราเอมอนอยู่เคียงข้างอีกต่อไป ซึ่งความสัมพันธ์และมิตรภาพของ โนบิตะ กับ โดราเอมอน มันเกินกว่าคำว่าเพื่อน
ผู้กำกับ : ยามาซากิ ทาคาชิ : Yamazaki Takashi (山崎貴), ยางิ ริวอิจิ : Yagi Ryuichi (八木竜一)
นักแสดง(พากย์เสียง) : มิซูตะ วาซาบิ : Mizuta Wasabi (水田 わさび), โอฮาร่า เมกุมิ : Ohara Megumi (大原 めぐみ), ทสึมาบูกิ ซาโตชิ : Tsumabuki Satoshi ((妻夫木聡)
ส่วนใครที่สนใจชมภาพยนตร์อนิเมชั่นญี่ปุ่น ขอแนะนำ Penguin Highway วันหนึ่งฉันเจอเพนกวิน เจ้าของรางวัลหนังอนิเมชั่นยอดเยี่ยม Satoshi Kon Award จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติแฟนตาเซีย 2018 ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านเนื้อหาและความมหัศจรรย์ของภาพ เตรียมรอชมกันได้เลย เพราะหนังมีกำหนดเข้าฉายในไทย
Penguin Highway วันหนึ่งฉันเจอเพนกวิน 22 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
แหล่งที่มา : wikipedia