หนัง Sci-fi เรื่องใหม่ที่ได้นักแสดงนำหญิงแถวหน้า Scarlett Johansson รับบทมนุษย์ผู้รอดชีวิตจากอุบัติภัย และได้รับการประกอบชิ้นส่วนกลายเป็นนักรบไซเบอร์ไร้เทียมทานอย่างเรื่อง Ghost in the shell คือหนึ่งในหนังที่มีฉากโลกอนาคตในประเทศญี่ปุ่น
และฉากญี่ปุ่นนี่แหละ คือองค์ประกอบสำคัญบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของตัวละคร อีกทั้งยังสื่อถึงโลกอนาคตคู่ขนานไปกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จนบางครั้งเราก็รู้สึกว่า มีวัฒนธรรมบางส่วนของคนญี่ปุ่นที่ถูกบอกเล่ากลายเป็นเสน่ห์ชวนติดตามของติ่งญี่ปุ่นได้ไม่น้อยทีเดียว และนี่คือ 5 เรื่องที่ WOM Japan คิดว่าคุณไม่ควรพลาด!
จริงๆ แล้วยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ
- -Resident Evil (2002)
- -Initial D (2005)
- -The Fast and the Furious: Tokyo Drift (2006)
- -2012 (2009)
- -Hacksaw Ridge (2016) หนังล่าสุดที่มีฉากหน้าผาอยู่ที่โอกินาว่า
ใครที่เคยดูแล้ว รีวิวมาได้เลย
1. Kill Bill: Vol. 1 (2003)
เริ่มกันด้วยหนังคลาสสิกของผู้กำกับ Quentin Tarantino ที่ตัวละคร Uma Thurman ตั้งใจจะไปล้างแค้นคิดปลิดชีพทีมสังหารที่เธอเคยร่วมงานด้วย หนึ่งในนั้นคือสามีของเธอ เป็นเหตุผลให้เดินทางไกลไปถึงเมืองโอกินาว่าเพื่อซื้อดาบซามูไรและเรียนวิชา และหลังจากที่ได้ดาบ นางก็เข้าสู่ฉากต่อสู้ที่ทำให้ผู้คนจดจำท่วงท่าอันเด็ดเดี่ยวดุดันไม่กลัวตายจากแรงแค้นที่เธอต้องแท้งลูกในท้องไป และอีกอย่างที่น่าจดจำคือ รองเท้าโอนิสึกะ ไทเกอร์สีเหลืองที่ทำให้คนไทยฮิตอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว
2. Lost in Translation (2003)
และในปีเดียวกัน หนังเหงาของผู้กำกับ Sofia Coppola ก็ถ่ายทอดความเดียวดายของ Scarlett Johansson ตัวแทนของหญิงสาวชาวตะวันตกที่ไม่มีสกิลสื่อสารภาษาญี่ปุ่นเลย แต่กลับต้องถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตเกือบทั้งวันเพียงลำพัง นี่จึงเป็นเหตุให้ฟุ้งซ่าน พาลหาคนนั่งดื่มแก้เบื่อระบายความอึดอัดใจกับหนุ่มใหญ่อดีตซุปเปอร์สตาร์ชาวอเมริกัน
โทนหนังมีความหม่นเทาระบายสภาพซับซ้อนของจิตใจตมนุษย์ที่ไม่สามารถอธิบายเป็นไดอะล็อกได้ ปะปนกับบรรยากาศอ้างว้างของเมืองใหญ่อันสับสนวุ่นวายที่เชื่อว่าชาวตะวันตกที่หลงเข้าไปในนั้นไม่มีทางจะเข้าใจถึงวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นได้เลย แม้หนังจะให้ตัวละครพยายามเรียนรู้วัฒนธรรม Pop culture ของญี่ปุ่น ขณะเดียวกันก็ให้ดิ้นรนอยู่ในสังคมที่แตกต่างจากสภาพดั้งเดิมของตนเพียงใด แต่ฉากจบก็ยังไม่สามารถคลายปมให้อยู่อย่างมีความสุขหากปราศจากความเข้าใจด้านภาษาได้อยู่ดี หนังยังสื่อเรื่องวัฒนธรรมการจัดดอกไม้ 生花 (Ikebana) ที่นางเอกเดินเข้าไปมองๆ อย่างสนใจ และลองจัดอีกด้วย
3. Pacific Rim (2013)
หนังที่สร้างจากความนิยมในเรื่องกันดั้ม หรือหุ่นยนต์นักรบขนาดยักษ์ ภายใต้ชื่อในหนังว่า เจเกอร์ ออกสู้เพื่อชาติต่อต้าน ไคจู สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึกที่อิงมาจาก ก็อดซิลล่า ตัวละครคลาสสิก
4. The Wolverine (2013)
โลกที่เหล่าบรรดามนุษย์กลายพันธ์อยู่นั้นเลยเถิดมาถึงญี่ปุ่นเลยนะคะคุณ เรื่องนี้มีส่วนประกอบสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นซามูไร นินจา สงครามโลกครั้งที่ 2 ชินคันเซ็น ปาจิงโกะ หุ่นยนต์ นวัตกรรม ตัดฉากสลับระหว่างความโอ่อ่าของบ้านในเมือง (ของเศรษฐี) และบ้านในชนบท และยังมีเรื่องครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่ส่งไม้ต่อธุรกิจให้รุ่นหลาน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดมีวูฟเวอรีนเข้ามาเกี่ยวข้องก็เพราะเคยช่วยชีวิตเศรษฐีที่อดีตเป็นทหารในสงครามมาก่อน
5. Big hero 6 (2014)
หนังการ์ตูนดิสนีย์ที่ไม่แบ๊ว หนังพูดเรื่องความเข้มแข็งของ Hiro Hamada ที่สูญเสียพี่ชายจากอุบัติเหตุในมหาวิทยาลัยที่เขาใฝ่ฝันจะเข้าเรียนต่อ และ Baymax หุ่นยนต์ที่ช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น ทั้งคู่รวมทั้งทีมเพื่อนพี่ชายที่มีหัวคิดเชิงนวัตกรรม คือฮีโร่เอกของเรื่อง ฉากเกิดขึ้นที่เมืองหนึ่งที่เป็นส่วนผสมของซาน ฟรานซิสโก และโตเกียว ชื่อ San fransokyo
แม้การ์ตูนเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นญี่ปุ่น 100% แต่คือ Asian American ที่มีนิสัยค่อนข้างเปิดกว้าง ทำงานเป็นทีมตามแบบฉบับตะวันตก แต่มุ่งมั่นทำสิ่งที่ตัวเองหลงใหลจนสุดทาง หากคิดก็คิดให้สุด ทำก็ทำให้สุด ไม่กลัวว่าสิ่งที่ทำนั้นจะไร้ประโยชน์แบบคนญี่ปุ่น
ในห้องของฮิโระยังมีชั้นวางหนังสือการ์ตูนเป็นตั้งๆ อีกด้วย