สุดยอดอนิเมะแห่งยุค Heisei

ยุคสมัย Heisei ของญี่ปุ่นสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 โดยจักรพรรดิ Akihito เริ่มครองราชย์มาตั้งแต่ปี 2532 และยุคสมัยต่อไปนั้น มีชื่อเรียกว่า 'Reiwa' ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2562

วันนี้ทางทีมงานจึงอยากชวนเพื่อน ๆ มาย้อนรอยประวัติศาสตร์การ์ตูนในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมาว่ามีเรื่องไหนประสบความสำเร็จ และเข้าไปนั่งในใจใครต่อใครได้บ้าง

การ์ตูนยอดฮิตในยุค Heisei

Kiki's Delivery Service (1989/Heisei 1)

ในปี 2532 การ์ตูนของ Hayao Miyazaki นั้นดังเป็นพลุแตก โดย ‘Kiki’s Delivery Service’ หรือ แม่มดน้อยกิกิ ของสตูดิโอจิบลิ นั้นเป็นเรื่องราวของแม่มดสาว "กิกิ" ที่มีอายุเพียง 13 ปี เธอต้องออกเดินทางไปกับจิจิแมวของเขาและไม้กวาดเพื่อค้นหาตัวเองในเมืองที่ไม่มีแม่มดอื่นมาอยู่ ในที่สุด เมืองที่เธออยากไปอยู่ก็มาอยู่ตรงหน้า เมืองใหญ่โตริมทะเลที่เธอฝันไว้ ความที่เป็นเมืองใหญ่ มีผู้คนอาศัยอยู่มาก เธอจำเป็นต้องปรับตัวและหาวิถีที่จะอยู่ในเมืองใหญ่เมืองนี้ให้ได้ โดยเธอก็ได้ไปอยู่กับครอบครัวทำขนมปัง แล้วเธอก็ใช้ความสามารถในการขี่ไม้กวาดให้เป็นประโยชน์ คอยรับจ้างส่งของให้กับคนในเมือง โดยกิกิได้เจอกับเพื่อนใหม่มากมาย ต่างวัย ต่างอายุ แต่ก็เป็นคนที่คอยให้กำลังใจเธอยามที่เธอสูญเสียเวทมนตร์

Only Yesterday (1991/Heisei 3)

‘Only Yesterday’ หรือ ในความทรงจำที่ไม่มีวันจาง ก็เป็นการ์ตูนอีกเรื่องที่ดังไม่แพ้กัน โดยเป็นเรื่องราวของ ทาเอโกะ หญิงสาวชาวญี่ปุ่นวัย 27 ปี ซึ่งได้เดินทางไปพักร้อนและไปใช้ชีวิตเกษตรกรอยู่ที่จังหวัดยะมะงะตะ และช่วงเวลานี้เองที่ความทรงจำเมื่อครั้งสมัยอยู่ชั้น ป.5 ได้ผุดขึ้นมาวนเวียนอย่างต่อเนื่องในห้วงความคิดของทาเอโกะ โดยตัดเนื้อเรื่องสลับไปมาระหว่างชีวิตของนางสาวทาเอโกะวัย 27 ปี ที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์ชนบทอันสวยสดงดงาม และผู้คนที่เปี่ยมล้นน้ำใจ กับชีวิตของเด็กหญิงทาเอโกะวัยประมาณ 10 ขวบ ที่ล้อมรอบด้วยครอบครัวที่ค่อนข้างจะเข้มงวด และเพื่อนร่วมชั้นมากหน้าหลายตา

Ghost in the Shell (1995/Heisei 7)

เรื่อง ‘Ghost in the Shell’ นั้นดังมาก ๆ เพราะไม่ใช่แค่เป็นการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วย โดยเรื่องจะเล่าถึงอนาคตที่เราแทบจะแยกมนุษย์และหุ่นยนต์ออกจากกันได้ยาก เพราะโลกได้กลายเป็นสังคมใหม่ที่คนและหุ่นยนต์ต้องอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเสรี แต่เพราะเกิดเหตุการณ์สำคัญบางอย่างเกิดขึ้น จึงมีความจำเป็นที่นักรบครึ่งคนครึ่งหุ่นยนต์สาวสวยต้องมาสืบสวนอดีตของตัวเอง

End of Evangelion / Evangelion 1.0 / Evangelion 2.0 / Evangelion 3.0 (1997/Heisei 9; 2007/H19; 2009/H2; 2012/H24)

‘Neon Genesis Evangelion’ หรือ อีวานเกเลียน มหาสงครามวันพิพากษา นั้นเป็นซีรีย์การ์ตูนทางโทรทัศน์ ที่ออกฉายตั้งแต่ปี 2538-2539 มีความยาวทั้งหมด 26 ตอน ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทั้งในด้านความนิยม ด้านการค้า นอกจากนี้ ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และมีอิทธิพลอย่างมากต่อวงการอนิเมะและสังคมญี่ปุ่นในสมัยนั้น และก่อให้เกิดแฟรนไชส์สินค้าและสื่ออีวานเกเลียนขึ้นมากมาย นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลอนิเมะใหญ่หลายรางวัล จนได้รับการยอมรับในหลาย ๆ แห่งว่าเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เยี่ยมยอดที่สุดและเป็นเรื่องต้นฉบับที่ทำให้การ์ตูนทั้งหมดหลังจากนั้นเป็นยุคใหม่มากกว่าขึ้นอย่างมาก

โดยอีวานเกเลียน ได้หยิบสัญลักษณ์ทางศาสนาของหลักจูเดโอ-คริสเตียน จากพระธรรมปฐมกาล (Book of Genesis) ในคัมภีร์ของศาสนายิว และศาสนาคริสต์ และเรื่องเล่าทางศาสนาต่าง ๆ มาเป็นแนวดำเนินเรื่อง ในตอนท้าย ๆ ได้เน้นไปที่การวิเคราะห์จิตของตัวละครเมื่อสมัยเด็ก (psychoanalysis) ว่าทำไมตัวละครหลักของเรื่องจึงมีนิสัยและการกระทำเช่นนั้น ซึ่งได้แสดงว่าตัวละครนั้น ๆ มีปัญหาทางด้านอารมณ์มาแต่เด็กจนเกิดอาการป่วยทางจิตในที่สุด การเดินเรื่องจะวนเวียนอยู่กับการตั้งคำถามและการตอบซ้ำไปซ้ำมา จนทำให้ตัวละครสับสนว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นนั้นจริงหรือ ผู้กำกับฮิเดอากิ เคยป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ก่อนที่จะเริ่มสร้างเรื่องนี้ เขาได้นำประสบการณ์ตรงของตัวเองในการที่จะเอาชนะโรคซึมเศร้ามาเป็นแนวความคิดของตัวละคร

Perfect Blue (1997/Heisei 9)

Perfect Blue หรือ เธอกับฉันและฝันของเรา เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวจิตใจที่สร้างแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ญี่ปุ่นปี 2540 ที่กำกับโดยซาโตชิโคะและเขียนโดย Sadayuki Murai โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับนักร้องไอดอลวัยรุ่นขวัญใจมหาชนที่ตัดสินใจหันหลังให้กับเวทีคอนเสิร์ตในช่วงที่กำลังรุ่งสุดขีด และหันหน้าเดินเข้าสู่เส้นทางการแสดง แม้ว่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานเธอมาตลอดก็ตาม ซึ่งมิมะเองก็ต้องประสบปัญหากับเริ่มต้นบทบาทการเป็นนักแสดงเช่นกัน เธอต้องค่อย ๆ ไต่เต้าจากนักแสดงหน้าใหม่ที่มีบทพูดแค่เพียงประโยคเดียว เมื่อมีโอกาสที่จะได้เล่นบทที่แรงขึ้น เธอจึงตัดสินใจรับเล่น แม้ว่ามันจะเป็นฉากที่มีความรุนแรงทางเพศ ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวแค่ไหนเธอก็ยอม แลกกับชื่อเสียงและที่ยืนในวงการมายา โดยเธอเองก็สงสัยว่า จริง ๆ แล้วเธอเป็นใคร และต้องการอะไรในชีวิตกันแน่

Pokémon: The First Movie: Mewtwo Strikes Back (1998/Heisei 10)

การ์ตูนเรื่องนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ดังระดับตำนาน จนมีคนเอาไปทำหนัง ทำเกม ทำการ์ด และของที่ระลึกต่าง ๆ มากมาย โดย Pokémon นั้นเป็นเรื่องราวของการผจญภัยของซาโตชิ ที่อยากจะออกไปฝึกประสบการณ์เป็น Pokémon Trainer ซึ่งโปเกม่อนคู่หูตัวแรกของเขาก็คือ ปิกาจู หนูสีเหลืองที่ปล่อยไฟฟ้าได้ 100,000 โวลต์ ทั้งคู่ต้องร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อเอาชนะคู่แข่งและเหล่าร้ายระหว่างการเดินทาง แถมยังได้เจอมิตรภาพดี ๆ ระหว่างการผจญภัยอีกด้วย

Spirited Away (2001/Heisei 13)

ผลงานของ Hayao Miyazaki ที่ดังที่สุดในตอนปลายของยุค ดังชนิดว่าแฟนการ์ตูนทั่วโลกยังต้องรู้จัก ‘Spirited Away’ เรื่องราวที่เด็กหญิงวัย 10 ปี หลงเข้าไปในโลกของภูตพร้อมครอบครัวโดยบังเอิญ บิดามารดากลายร่างเป็นหมู และเธอต้องทำงานที่โรงอาบน้ำของแม่มด เธอจึงพยายามปลดแอกตนและครอบครัวเพื่อกลับโลกมนุษย์ โดยเรื่องนี้ดังขนาดว่าได้เข้าชิงรางวัล Oscar เลยนะเออ

Summer Wars (2009/Heisei 21)

ก่อนที่จะปิดยุค Heisei คงจะมีใครเคยเห็นผลงานของ Mamoru Hosoda ผู้กำกับที่ตัวละครจะต้องมีรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง ‘Digimon’ และ ‘One Piece’ ก่อนที่จะผันตัวมาสร้างภาพยนตร์ และทำให้ ‘Summer Wars’ เป็นภาพยนตร์ครอบครัวที่มีคนรู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเป็นเรื่องราวของ สังคมโลกทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนต่างพึ่งพาอาศัยระบบอินเทอร์เน็ตที่เรียก "อ็อซ" (OZ) เป็นอันมาก ครั้งนั้น เค็นจิ โคอิโสะ อายุสิบเจ็ดปี เป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์ และทำงานนอกเวลาเป็นผู้ดูแลระบบอ็อซดังกล่าวพร้อมกับทาคาชิ ซาคุมะ เพื่อนสนิทของเขา พวกเขาต้องช่วยกันปลดระบบป้องกันตนของเลิฟแมชชีน และทำลายองค์ของปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงทะลวงเข้าระบบควบคุมดาวเทียมและผันวิถีไปทางอื่นที่ไม่ก่อความเสียหายแก่โลก

Redline (2010/Heisei 22)

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการ์ตูนในยุค Heisei ก็ได้เริ่มผสานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกเข้ากับการ์ตูน ด้วยฝีมือของ Takeshi Koike และ Katsuhito Ishii ที่ผลักดันให้เกิด ‘Redline’ ขึ้น โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับการแข่งขันรถซิ่งบนดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ่ง ‘Redline’ นั้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับการขับรถทีมีเครื่องยนต์แรง ๆ ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม หนังเรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถทำลาย box office ได้อยู่ดี