ปราสาทของเมืองต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด นอกจากเรื่องความสวยงามแล้ว ยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมทางสถาปัตยกรรมที่ถ่ายทอดความรุ่งเรื่องของเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่นอีกด้วย มีการบันทึกว่าปราสาทในญี่ปุ่นเคยมีมากกว่า 5000 แห่ง แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 100 แห่ง โดยที่มีเพียงไม่กี่แห่งที่มีอายุตั้งแต่ยุคศักดินาของญี่ปุ่น ถ้าใครวางแผนจะไปทริปปราสารทญี่ปุ่นแล้วยังตัดสินใจไม่ถูกลองดู Top 20 Best Castle 2017 โดย TripAdvisor เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังเป็นผู้จัดลำดับตามความชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเราคัดมา 5 สุดยอดปราสาทมาให้ได้ชมกัน
1.ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ (Himeji Castle, Hyogo)
เป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากสุดในญี่ปุ่น อยู่ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ ปราสาทฮิเมจิแห่งนี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลายร้อยปีเริ่มตั้งแต่ช่วงปี 1333 เป็นต้นมา กำแพงปราสาททาด้วยปูนขาว ทั้งปราสาทจึงดูเป็นสีขาวจึงมีอีกชื่อว่า “ปราสาทนกกระสาขาว” มีอาคารถึง 80 อาคารที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด มีกำแพงและประตูกั้นแต่ละส่วน จุดเด่นคือแนวปราสาทที่แข็งแกร่งและคูน้ำถึง 3 ชั้น นอกจากนี้ยังได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกของญี่ปุ่น และถูกประกาศให้เป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นพร้อมๆ กัน และเป็น 1 ใน 4 ปราสาทที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
“ทั้งยิ่งใหญ่และสวยงาม จากประตูทางเข้าประสาทจนถึงด้านในของหอคอยก็เหมือนเขาวงกต เพราะออกแบบได้สลับซับซ้อน ด้านในของตัวหอคอยกว้างขวาง น่าทึ่งกับโครงสร้างการออกแบบทางด้านสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะเสาหลัก 2 แห่งที่เป็นตัวฐานของปราสาท ” จากคุณบุบุจัง
รายละเอียด
ค่าธรรมเนียม : ผู้ใหญ่ (18 ปี ขึ้นไป) 1040 เยน
เด็ก (นักเรียนระดับประถมศึกษา, นักเรียนมัธยมต้น, นักเรียนมัธยมปลาย) 360 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9:00 - 17:00 น. (ปลายเดือนเมษายน - สิงหาคม: 9:00 - 18:00 น.)
วันปิดทำการ: ปิดวันที่ 29 - 30 ธันวาคม
วิธีการเดินทาง
รถไฟ: เดิน 15-20 นาที จาก Himeji Station
2. ปราสาทมัตสึโมโต้ จังหวัดนากาโน่ (Matsumoto Castle, Nagano)
เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าปราสาทอีกาเพราะตัวอาคารนั้นมีสีดำ มีหอคอยและป้อมเชื่อมต่อกับโครงสร้างอาคารหลัก สีโทนมืดทำให้เกิดความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่และสุขุม และบริเวณปราสาทก็มีอีกาบินผ่านไปมา เริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1504 หรือราวๆ 500 ปีก่อน ตัวปราสาทจะ แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นในอดีตจะใช้เป็น สถานที่เก็บอาวุธ ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวอันงดงามของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นและยังเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับมาดูดอกซากุระอีกด้วย โดยเฉพาะซากุระพันธุ์ 5 กลีบ Somei Yoshino
“เป็นปราสาทที่คงความดั้งเดิมและมีหอคอยกลางปราสาทเก่าแก่สุดในญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาดชม” จากคุณริสึทาโร่
รายละเอียด
ค่าธรรมเนียม : ผู้ใหญ่ 610 เยน, เด็กนักเรียนชั้นประถมและมัธยมต้น 300 เยน
เวลาเปิดทำการ 8:30-17:00 น. (เข้าชมปราสาทรอบสุดท้าย 16:30 น.) สำหรับช่วงวันหยุดโกลเด้นวีคในปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคมและวันหยุดโอบ้งและก่อนโอบ้งช่วงต้นเดือน-กลางเดือนสิงหาคมขยายเวลาเข้าชมปราสาทรอบสุดท้ายเป็น 18:00 น.
วันหยุด วันที่ 29 – 31 ธันวาคม
วิธีการเดินทาง
การเดินทาง จากสถานีมัตสึโมโต้ใช้เวลาเดินเพียง 15 นาที หรือขึ้นรถบัสประมาณ 5 นาที
3.ปราสาทมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ (Matsuyama Castle, Ehime)
สร้างขึ้นเมื่อปี 1602 โดย Kato Yoshiaki จุดเด่นคือตั้งอยู่ตรงกลางหุบเขามัตสึยามะใจกลางเมือง มีกำแพงหินและคูน้ำล้อมรอบ ด้วยพื้นที่โดยรอบเป็นกำแพงหินที่สูงชันและเป็นภูเขาสูง ทำให้ได้เปรียบในเรื่องของการป้องกันเวลาทำการรบในสมัยก่อน แต่เดิมปราสาทมีอยู่ 5 ชั้นแต่ถูกฟ้าผ่าและทำการบูรณะใหม่จนเหลือเพียง 3 ชั้นในปัจจุบัน
“ฉันนั่งกระเช้ารถไฟฟ้าขึ้นไปไปชมความงามของปราสาท แนวหินที่เรียงตัวเป็นปราการไปจนถึงปราสาท มันน่าทึ่งและสูงมาก สิ่งก่อสร้างและวิวทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบมีมากมาย เมื่อมองลงไปแล้วช่างสุดยอดจริงๆ ” จากคุณ Sunotoryok Kobe
รายละเอียด
ตั๋วเยี่ยมชมปราการปราสาท : ผู้ใหญ่ 510 เยน เด็ก (นักเรียนประถม) 150 เยน
เซ็ตตั๋วเยี่ยมชมปราการปราสาท + นั่งกระเช้า・ลิฟท์แบบไป-กลับ : ผู้ใหญ่ 1,020 เยน เด็ก (นักเรียนประถม) 410 เยน
เวลาเปิด-ปิด: กระเช้า 8:30-17:30 (เดือนธันวาคม-มกราคม ปิด 16:30, เดือนสิงหาคม ปิด 17:30)
ลิฟท์ 8:30-17:00 (เปิดบริการตลอดทั้งปี)
วันปิดทำการ: เปิดทุกวัน เว้นวันพุธที่ 3 ของเดือนธันวาคมเพราะมีการทำความสะอาดปราสาทครั้งใหญ่
4.ปราสาทบิทชูมัตสึยามะ จังหวัดโอคายามะ (Bitchu-Matsuyama Castle, Okayama)
รู้จักกันดีในชื่อว่าปราสาทลอยฟ้าที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนยอดเขากากิวซังสูงกว่า 470 เมตรในเมืองทาคาฮาชิ จังหวัดโอคายาม่า สร้างขึ้นในพื้นที่สูงขนาดนี้ก็เพื่อไม่ให้ข้าศึกมาโจมตีได้ง่ายๆ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับฤดูหนาวในตอนเช้ามืด ถ้าโชคดีเราจะได้เห็นหมอกลอยอยู่ทั่วบริเวณภูเขารอบปราสาทเหมือนกับปราสาทลอยอยู่ท่ามกลางทะเลหมอกเลยทีเดียว แม้ตัวปราสาทจะไม่ได้ใหญ่มากแต่ทัศนียภาพสวยมาก ตลอดทางมองเห็นวิวของเมืองได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายในหอคอยด้านบนจะมีการจัดแสดงประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของปราสาทบิทชูมัตสึยามะ
“ตัวป้อมปราการสวย กำแพงหินดูแข็งแกร่ง โดดเด่นมาก ที่นี่ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครของช่อง NHK ในตอนเปิดฉากของละครเรื่อง “ซานาดะมารุ” ที่ออกอากาศไปในปี 2016 ฉันใช้เวลาทั้งหมด 20 นาทีถึงขึ้นไปตัวปราสาทได้ แม้แต่คุณป้าที่ไม่ค่อยเดินขึ้นเขาบ่อยๆ ก็ยังเดินขึ้นได้เลย อยากให้ลองไปเที่ยวชมที่นี่ดู” จากคุณยูคิเอะ
รายละเอียด
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 300 เยน นักเรียน 150 เยน (ระดับประถมและมัธยมต้น)
เวลาเปิด-ปิด: เมษายน – กันยายน 9:00 น. – 17:30 น
ตุลาคม – มีนาคม 9:00 น. – 16:30 น
วันปิดทำการ: 29 ธันวาคม – 3 มกราคม
การเดินทาง
รถแท็กซี่จะสะดวกที่สุด หรือจากสถานีรถไฟบิทชูทาคาฮาชิ (Bitchu-Takahashi) ให้นั่งแท็กซี่ต่อไปลงที่ลานจอดรถด้านบนสุด ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที
5.ปราสาทนิโจ จังหวัดเกียวโต (Nijo Castle, Kyoto)
1 ในปราสาทที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1994 เพราะความเก่าแก่ของปราสาทซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรมที่อยู่ในยุคศักดินาของญี่ปุ่น ใช้เวลาก่อสร้างทั้งหมด 23 ปี ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1603 เพื่อใช้เป็นที่พักของท่านโชกุนโทคุกาวะ พื้นที่ของปราสาทนิโจ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ นิโนมารุ ,ฮอนมารุ และสวนภายในสวนมีต้นซากุระ ต้นพลัม สระน้ำขนาดใหญ่ สวนหินตามแบบฉบับของสวนญี่ปุ่น
“แม้จะไม่เหมือนปราสาทอื่นๆ แต่เป็นสถานที่ซึ่งแสดงถึงอำนาจของชนชั้นปกครองและตระกูลขุนนางอย่างแท้จริง เห็นได้จากการตกแต่งที่หรูหราเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ นอกจากจะได้รับการจัดอันดับว่าเป็นมรดกโลก แล้ว ยังมีสวยหิน และสวนหย่อมที่สวยงามอีกจำนวนมาก” จากคุณกักคิ 68
รายละเอียด
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 600 เยน ,เด็กมัธยม 350 เยน , เด็กประถม 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 8:45 - 17:00 น. (เวลาเข้าชมรอบสุดท้าย 16:00), นิฮอนมารุ : 9:00 - 16:00 น.
วันปิดทำการ: ปิดทุกวันอังคารของเดือนมกราคม, กรกฎาคม, สิงหาคมและธันวาคม, ปิดตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ถึง 4 มกราคมของทุกปี
การเดินทาง
เดินทางด้วยรถเมล์ซิตี้บัส ลงที่ป้ายนิโจโจ มะเอะ แล้วเดินเล็กน้อย (จากสถานีเจอาร์ เกียวโต / รถไฟฮังคิว สถานีคะระสึมะ) หรือ รถไฟใต้ดินโทไซ ลงที่สถานี นิโจโจ มะเอะ
แหล่งที่มาและภาพประกอบ : http://tg.tripadvisor.jp/news/ranking/best-castles/