4 หัวข้อน่ารู้เกี่ยวกับมรดกโลกแห่งใหม่ของญี่ปุ่น ประจำปี 2018 !
(แหล่งชุมชนคริสเตียนลับ แห่งนางาซากิ และอามะคุสะ : Hidden Christian Sites in the Nagasaki Region)
1) เป็นแหล่งมรดกโลกแหล่งที่ 22 ของญี่ปุ่น
2) มีพื้นที่คาบ 2 จังหวัด
3) เป็นสถานที่ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์แห่งแรกในญี่ปุ่น
4) ใช้เวลากับระเบียบการยาวนาวถึง 11 ปี กว่าจะได้ขึ้นเป็นมรดกโลก
1) เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 22 ของญี่ปุ่น
แหล่งชุมชนคริสเตียนลับ แห่งนางาซากิ และอามะคุสะ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นแหล่งที่ 22 ต่อจากเกาะ “คามิยะโดรุ” หรือเกาะเทพเจ้าแห่ง โอคิโนะชิมะ จังหวัดโอกินาว่า จริงอยู่ที่ว่าภูมิภาคคิวชู และจังหวัดนางาซากิ มีความโดดเด่นเรื่องสถาปัตยกรรมรูปแบบยุโรป แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกแห่งจะได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเสมอไป ชุมชนคริสเตียนลับที่นางาซากิแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การได้รับการจดบันทึกให้เป็นแหล่งมรดกโลก เนื่องจากมีความสัมพันธ์ชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ ขนบธรรมเนียมของสังคมครั้งเมื่อในอดีต ที่นี่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวคริสต์ตั้งแต่ครั้งในอดีต โดยเริ่มต้นจากการเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่นับถือศาสนาคริสต์ในขณะที่สังคมภายนอกต่อต้าน และเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1865 ได้มีการสร้างโบสถ์คริสต์ที่ชื่อ “โบสถ์โออุระ” ขึ้นโดยมิชชันนารีโดยกล่าวว่า “พวกเราทุกคนที่นี่ล้วนแล้วแต่มีหัวใจดวงเดียวกัน”
2) มีพื้นที่คาบ 2 จังหวัด
3) เป็นสถานที่ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสต์แห่งแรกในญี่ปุ่น
แหล่งชุมชนคริสต์เตียนลับแห่งนี้มีพื้นที่อยู่บนจังหวัดนางาซากิเป็นส่วนใหญ่ แต่มีบางส่วนคาบกินกับพื้นที่ในจังหวัดคุมะโมโตะด้วยเช่นกัน ชุมชนนี้ตั้งอยู่ภายในพื้นที่เรียกว่า ‘ฮาระโจวอะโตะ’
ครั้งในอดีตผู้คนนับถือพระพุทธศาสนา นิกายชินโตกันเป็นส่วนมาก แต่กลุ่มคนจำนวนหนึ่งภายในเกาะเลือกที่จะนับถือศาสนาคริสต์ นิกาย โรมันคาทอลิก เนื่องจากยุคนั้นมีนักบุญฟรังซิสเซเวียร์เดินเรือข้ามน้ำข้ามทะเลมาเทียบท่าที่เมืองฮิราโดะ นางาซากิ เพื่อเข้ามาเผยแผ่ศาสนาให้ชาวญี่ปุ่น กระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1549 การเข้ามาในประเทศของมิชชันนารีส่งผลให้ญี่ปุ่นต้องปิดประเทศเพื่องดการเผยแผ่ศาสนาจากภายนอกในที่สุด แหล่งชุมชนคริสต์เตียนลับ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแห่งนี้ มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งหมดหลายแห่งโดยแต่ละสถานที่ที่รวมอยู่ในการจดบันทึกให้เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ แหล่งชุมชนคริสต์เตียนที่ลับ แห่งนางาซากิ อามะคุสะ มีรายชื่อรวมทั้งหมด 12 พื้นที่โดยเป็นพื้นที่ในจังหวัดนางาซากิจำนวน 11 พื้นที่ และ อีกหนึ่งพื้นที่คือ ‘อามะคุสะ’ จากจังหวัดคุมะโมโตะ
โดยแต่ละสถานที่ล้วนเป็นจุดที่ใช้บูชาเทพเจ้าของตนทั้งสิ้น จึงไม่แปลกที่แหล่งชุมชนคริสต์เตียนลับ แห่งนี้จะได้รับการขึ้นทะเบียนไปอย่างสวยๆ เพราะงานนี้เข้าทาง OUV ขององค์การ UNESCO ไปเต็มๆ และในปัจจุบันได้ถูกบันทึกรายชื่อลงในเว็บไซต์ของยูเนสโก หมวด Cultural site โดยใช้ชื่อสากลว่า Hidden Christian Sites in the Nagasaki Region เป็นที่เรียบร้อย
4) ใช้เวลากับระเบียบการยาวนานนับ 11 ปี กระทั่งได้ขึ้นเป็นมรดกโลก
กว่าจะได้รับการพิจารณาให้เป็นมรดกโลกขึ้นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เนื่องจากต้องมีขั้นตอนการดำเนินงานตามรูปแบบสากล แหล่งชุมชนคริสเตียนแห่งนี้ใช้เวลาต่อสู้และอดทนรอเป็นเวลา 11 ปี ตั้งแต่ เสนอรายชื่อแหล่งมรดกนี้ไปยังองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ไปเมื่อปี 26 ธันวาคม ปี ค.ศ. 2007 โดยเริ่มจากการกำหนดคุณค่าความเป็นสากล (OUV) ไว้ในครั้งแรก เพื่อเริ่มต้นขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภายในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากแหล่งมรดกโลกใดๆ ในโลกล้วนไม่สามารถถูกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกได้หากยังไม่ถูกขึ้นทะเบียนภายในพื้นที่ประเทศของตนก่อน หน่วยงานด้านวัฒนธรรมประจำจังหวัดนางาซากิพยายามต่อสู้อย่างต่อเนื่องแม้จะไม่สำเร็จ กระทั่งปี 2013 จังหวัดนางาซากิได้มีการตัดสินใจร่วมมือกันกับจังหวัดคุมะโมโตะเพื่อให้แหล่งมรดกโลกแห่งนี้ได้รับการพิจารณาทั้งในด้านขนบธรรมเนียมประเพณีความเชื่อและด้านภูมิทัศน์วัฒนธรรม (Cultural landscapes) และดูเหมือนการร่วมมือกันกับจังหวัดคุมะโมโตะจะได้รับการตอบรับที่ดี
ในปี 2016 “โบสถ์โออุระ” ในแหล่งชุมชนคริสต์เตียนลับ แห่งนางาซากิ และอามะคุสะ ได้รับการพิจารณาคุ้มครองโดย สภานานาชาติว่าด้วยการดูแลอนุสรณ์สถานและแหล่งโบราณคดี (ICOMOS) หลังจากต่อสู้ด้านนี้มาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2014 ความฝันใกล้เป็นจริงเมื่อชื่อของ Hidden Christian Sites in the Nagasaki Region เลื่อนขั้นเป็นชื่อสากลที่สามารถใช้เรียกทุกพื้นที่ที่ครอบคลุมข้างต้นได้อย่างเป็นทางการ
30 มิถุนายน 2018 เวลา 17:30 น. ได้มีการชี้แจงเหตุผลที่ Hidden Christian Sites in the Nagasaki Region ควรค่าแก่การถูกบันทึกไว้ให้เป็นมรดกโลกแห่งใหม่ในการประชุมวัฒนธรรมสากลจาก ICOMOS ว่ามีคุณค่าโดดเด่นและมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง และในการประชุมครั้งนี้คือบทสรุปอันสวยงามเนื่องจากเหล่าตัวแทนภาคีสมาชิกจาก 21 ประเทศ ไม่มีการคัดค้านใด จึงทำให้ แหล่งชุมชนคริสต์เตียนลับ แห่งนางาซากิ และอามะคุสะ แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของญี่ปุ่นแห่งที่ 22 ในที่สุด