"โอตารุ" คือสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของฮอกไกโด เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์สูง เหมือนคุณกำลังเดินทางย้อนยุคกลับไปในอดีต ที่นี่คุณจะได้พบกับบ้านสไตล์ตะวันตกดั้งเดิม มากเช่นเดียวกันกับบ้านโครงสร้างแบบญี่ปุ่นโบราณ คราวนี้เราจึงขอแนะนำจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในโอตารุให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ
1. คลองโอตารุ
นี่คือคลองขนาดยาวถึง 1,140 เมตร สร้างขึ้นโดยเชื่อมระหว่างแนวชายฝั่งและพื้นที่นอกชายฝั่งในปี พ. ศ. 2466 เป็นพื้นที่ที่มีบรรยากาศรอบข้างดีเยี่ยม พร้อมด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทางประวัติศาสตร์รวมถึงโกดังหินชื่อดังอีกด้วย มีโคมไฟก๊าซ 63 ดวงเรียงรายตามทางเดินริมคลองที่คอยส่องแสงสว่างไสวขึ้นในยามเย็น สร้างฉากโรแมนติกที่สวยงามแก่ผู้คนที่พบเห็น มีร้านค้ามากมายที่ออกแบบตกแต่งสไตล์ย้อนยุคและคลังสินค้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในบริเวณใกล้เคียง
2. โรงกลั่นสุราทานากะ (Tanaka Sake Brewing Main Branch)
เป็นโรงงานผลิตเหล้าสาเกที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 100 ปี ร้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในอาคารไม้สองชั้นซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ. ศ. 2470 ทางร้านยังคงติดป้ายโบราณเป็นป้ายตราสมัยโชวะของพวกเขา ที่แสดงถึงความรุ่งเรืองสมัยอดีต หนึ่งในเสน่ห์ของร้านคือความหลากหลายของสาเกที่มีอยู่ รวมถึงสาเกเอกลักษณ์ Takaragawa (2,000 JPY 579 บาท / 720ml (รวมภาษี)) ที่นี่มีสาเกให้คุณลองชิมมากว่า 10 แบบ เพื่อให้คุณสามารถใช้เวลาเลือกสรรและหาเหล้าสาเกที่รสชาติถูกใจ รสนิยมของคุณได้
3. ออนเซ็นอาซาริงาวะ
คือน้ำพุร้อนออนเซ็นที่อยู่ระหว่างภูเขาที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งเรียกว่า Okuzashiki ของโอตารุ บริเวณนี้มีโรงแรมเรียวกังหลายแห่ง เช่นเดียวกับกิจกรรมด้านกีฬาที่หลากหลาย ดังนั้น คุณเลือกได้ว่าจะสนุกไปกับกีฬากอล์ฟและเทนนิสในช่วงหน้าร้อน หรือกีฬาสกีในช่วงหน้าหนาว ออนเซ็นที่นี่มีแร่ธาตุโซเดียมคลอไรด์แคลเซียมในน้ำ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าสามารถช่วยให้บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาท และช่วยขจัดความเมื่อยล้าได้ เพราะเรียวกังแห่งนี้ต้อนรับผู้ที่มาเยี่ยมชมแม้ไม่ได้เข้าพัก ดังนั้นคุณจึงสามารถมาแวะเพื่อรีเฟรชตัวเองหลังจากการเที่ยวชมวิวหรือเล่นกีฬาได้
4. พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum)
นี่คือร้านค้าที่มีความเชี่ยวชาญด้านกล่องดนตรี จุดเด่นของสิ่งก่อสร้างคือมีนาฬิกาโบราณขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าของอาคาร ถูกสร้างขึ้นในปี 1912 จึงมีบรรยากาศย้อนยุคในสมัยอดีต ที่นี่มีคอลเลกชันกล่องดนตรีที่เยอะที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือกมากกว่า 3,400 แบบ จึงเป็นร้านที่เหมาะสำหรับการซื้อของขวัญและของที่ระลึก นอกจากนี้ ยังมีร้านในเครือกล่องดนตรีอีกร้านหนึ่งคือ Handicrafts Studio You-kobo ซึ่งใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที และที่นี่คุณยังสามารถสั่งทำกล่องดนตรีของตัวเองได้อีกด้วย
5. ช้อปปิ้งสตรีท ซาไกมาจิ
นี่คือถนนช้อปปิ้งที่อยู่ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ ถนนมีความยาวประมาณ 900 เมตร มีร้านค้าทั้งหมด 70 กว่าร้าน เช่น สตูดิโอและร้านเครื่องแก้ว ร้านขายขนมหวาน และร้านอาหารที่ให้บริการอาหารประจำภูมิภาค ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่เพอร์เฟกต์หากคุณกำลังมองหาของขวัญหรือของที่ระลึก ถนนนี้ยังมีความโดดเด่นด้วยอาคารสไตล์ย้อนยุครวมทั้งสาขาหลักอันยิ่งใหญ่ของ Taisho Glass ถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังเพลิดเพลินไปกับการเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆ ได้ดีอีกด้วย
6. ร้านเครื่องแก้วคิตะอิจิ
Kitaichi Glass เป็นแบรนด์เครื่องแก้วชั้นนำของโอตารุ มีร้านค้าหลายแห่งในโอตารุ และร้านแห่งนี้ติดอันดับ 3 ของร้านแนะนำทั้งหมด ร้านตั้งอยู่ในคลังสินค้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2434 ข้างในเป็นโครงสร้างกรอบไม้ ด้านหน้าของตึกเป็นสถาปัตยกรรมจากหิน เครื่องแก้วหลากสีสันที่นี่สวยงามมาก น่าซื้อกลับบ้านหรือนำไปเป็นของขวัญ เมื่อคุณช้อปปิ้งเสร็จแล้ว อย่าลืมแวะร้านน้ำชา Kitaichi ที่อยู่ในบริเวณฮอลล์เดียวกัน เป็นโซนที่งดงามและมีเสน่ห์มาก เพราะสว่างไสวด้วยโคมไฟน้ำมันถึง 167 ดวง
7. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอตารุ
นี่คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีสัตว์มากถึง 5,000 ตัว ซึ่งมีกว่า 250 ชนิด มีการจัดแสดงนิทรรศการอันเป็นเอกลักษณ์มากมาย เช่น Honobono Pool โชว์ปลาโลมาและปลาต่างๆ รวมถึง Sawatte Ezone ซึ่งคุณสามารถสัมผัสปลาดาวและเม่นทะเลได้ ที่ต้องไปดูเลยคือโซนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีแมวน้ำและสิงโตทะเลน่ารักๆ รออยู่ ที่นี่เปรียบเสมือนมหาสมุทรที่ถูกแยกออกเพื่อให้คุณสามารถเห็นสัตว์ในสภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้กับที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของพวกเขาได้
ค่าเข้าชม: 1,000 JPY= 289 บาท/ ผู้ใหญ่ 400 JPY= 115 บาท/ เด็ก (ประถมศึกษาและมัธยมต้น), 200 JPY= 57 บาท/ ก่อนวัยเรียน (3 ปีขึ้นไป) (ราคารวมภาษี)
หากคุณกำลังคิดจะไปโอตารุ บทความนี้จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณน่าสนใจมากขึ้น ก่อนเดินทางก็อย่าลืมเช็คข่าวสาร เพื่ออัพเดทข้อมูลล่าสุดด้วยนะคะ
แหล่งที่มาเรื่องและภาพ : wow-j