สะดวกสบายกับประสบการณ์นอนแคปซูลครั้งแรกที่ 9Hours Narita Airport สนามบินนาริตะ

ปกติเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ เมื่อถึงเวลาบินกลับถ้าหากไม่เร่งรีบจนเกินไป ฉันก็จะใช้บริการที่พักจำพวกโฮสเทลใกล้สนามบิน แบบที่นั่งรถไฟสถานีเดียวก็ถึง หรือไม่ก็อาศัยม้านั่งภายในสนามบินเป็นที่หลับนอนฆ่าเวลานั่นแหละ แต่ครั้งนี้ด้วยความอยากลองสัมผัสอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง ทำให้ที่พักคืนสุดท้ายในประเทศญี่ปุ่นก่อนกลับเมืองไทยของฉัน จึงมาลงล็อคที่การนอนแคปซูล ที่ฉันและเพื่อนตัดสินใจจอง
"9Hours Narita Airport" ซึ่งอยู่ภายในสนามบินนาริตะค่ะ

เริ่มตั้งแต่การเดินทาง... ฉันนั่ง Keisei Skyliner จากสถานีนิปโปริ เบ็ดเสร็จใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยลงที่ Narita Airport Terminal 2・3 มีเรื่องน่าอายเล็กน้อยของฉัน ที่เกือบลงรถไม่ทัน เพราะมัวแต่ลังเลว่าที่พักอยู่เทอร์มินอลไหนกันแน่ ย้ำกันตรงนี้เลยค่ะ ว่า 9Hours Narita Airport อยู่ภายใน Narita Airport Terminal 2 อย่าเผลอนั่งต่อไปเชียวนะ

หลังจากเดินออกจากรถไฟซึ่งอยู่ชั้น B2F ให้เดินออกไปยังช่องทางที่จะไป Multistory Car Parking No.2 เดินตรงไปตามเส้นทางเรื่อยๆ จะพบกับประตูเพื่อขึ้นบันไดไปยังชั้น B1F ซึ่งก็จะพบกับป้ายบอกทางไปยัง 9Hours Narita Airport Narita อยู่เป็นระยะ เรียกได้ว่าคนหลงทางบ่อยอย่างฉันใจชื้นขึ้นเป็นกอง เพราะอย่างไรเสียก็ต้องเดินไปถูกทางแน่นอนค่ะ

การจองและเข้าเช็คอิน... ในจังหวะที่ฉันเดินเข้าไปยัง 9Hours Narita Airport Narita ก็มีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีก 3-4 คนเข้าเช็คอินอยู่ก่อนแล้ว ฉันรอเพียงครู่เดียวก็ถึงคิว ฉันจองที่พักนี้ผ่านเว็บไซต์ booking.com ในราคาคืนละพันเศษๆ ที่พอเข้ามาพักแล้ว ราคาพันเศษๆ นี้ช่างคุ้มค่าเสียจริง เมื่อเข้าเช็คอิน ผู้เข้าพักสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเป็นเงินสด หรือชำระด้วยบัตรเครดิต สะดวกมากๆ ค่ะ เพราะโรงแรมหรือที่พักส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น หากมาจ่ายกันตอนเช็คอินมักจะเรียกเป็นเงินเยน เอาละเช็คอินแล้ว พนักงานจะมอบกุญแจล็อคเกอร์ซึ่งหมายเลขของล็อคเกอร์ก็คือเลขเตียงนอนของเราด้วยนั่นเอง พร้อมกับกระเป๋า 1 ใบ ภายในจะบรรจุชุดนอน 1 ชุด รองเท้าสลิปเปอร์ ผ้าขนหนูผืนใหญ่ และผืนเล็กอย่างละ 1 ผืน เข้าไปอาบน้ำกันดีกว่า...

เอาล่ะ พอเข้ามาที่พักมันก็จะง่วงๆ หน่อย สำหรับที่ 9Hours Narita Airport เขาจัดแบ่งพื้นที่ได้เป็นสัดส่วนมากค่ะ และแยกชายหญิงชัดเจน ฉันก็เข้าไปประตูฝั่งผู้หญิง เข้าไปจะเจอกับประตูบานใหญ่อีก 1 ชั้น ตรงนี้จะมีตะกร้าทรงสูงเอาไว้ให้ผู้เข้าพักหย่อนทั้งรองเท้าสลิปเปอร์ และผ้าขนหนูที่ใช้แล้วก่อนทำการเช็คเอ้าท์นั่นเองค่ะ

ล็อคเกอร์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ดี ใครมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ก็สามารถใส่ได้สบายๆ

เมื่อเปิดประตูเข้าไปอีกชั้น ก็ได้เห็นด้านในที่กว้างขวาง เราจะเจอกับล็อคเกอร์ก่อนเลยค่ะ ของฉันได้หมายเลข 35 ตู้ล็อคเกอร์อยู่ใกล้ประตูเชียว ข้างในล็อคเกอร์แบ่งเป็น 2 ชั้นใหญ่ใช้ได้ ใครมีกระเป๋าเดินทางใบยักษ์ก็ใส่ได้ค่ะ ผู้เข้าพักทุกคนจะต้องจัดเก็บกระเป๋าใบใหญ่เอาไว้ตรงนี้ หลังจากจัดการสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปอาบน้ำด้านใน ซึ่งมีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และโซนกระจกแต่งตัวไว้อย่างชัดเจน ในห้องอาบน้ำก็โอ่อ่าใช้งานสะดวกมากๆ ซึ่งฉันประทับใจห้องอาบน้ำสุดๆ ค่ะเพราะมาเยือนญี่ปุ่นครั้งนี้มีความรู้สึกว่าห้องน้ำและโซนอาบน้ำของโรงแรมที่ไปพักมานั้นแคบน่าอึดอัดไปหน่อย...

อาบน้ำแล้ว นอนได้ เย่!! พออาบน้ำเสร็จมันก็ง่วงขึ้นมาสะอย่างนั้น ฉันไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปยังบริเวณที่เป็นห้องนอน ซึ่งก็คือแคปซูลของใครของมันที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ ของฉันได้เบอร์ 35 ต้องปีนขั้นบันไดขึ้นไปนอนชั้นบนค่ะ ภายในแคปซูลมีหมอน ผ้าห่ม ละที่เสียบไฟสำหรับชาร์จโทรศัพท์ มีเสียงดนตรีขับกล่อมยามเราหลับ ซึ่งก็สามารถปิดเสียงได้ค่ะหากไม่ชอบ ที่นอนก็ไม่แข็ง หรือนิ่มจนเกินไป แต่ก็มีความอึดอัดหายใจขัดเล็กน้อย เพราะด้านในแคปซูลไม่มีแอร์!?!? ก็เลยรู้สึกร้อน ๆ และหายใจลำบากนิดหน่อย แต่โดยรวมแล้ว การมานอนแคปซูลครั้งแรกที่ 9Hours Narita Airport Narita นั้นมอบประสบการณ์ใหม่ที่สนุก สะดวก และสบายจริงๆ ค่ะ