และแล้วในที่สุดก็ใกล้ถึงเวลาที่หน้าหนาวจะมาเยือนญี่ปุ่นกันอีกครั้ง เมื่อหิมะตกพื้นที่ต่างๆ ทั่วญี่ปุ่นก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนให้วิวทิวทัศน์ที่สวยปนโรแมนติกไม่แพ้ช่วงไหนๆ วันนี้เราเลยรวบรวม 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่ถ้าวางแพลนจะไปเที่ยวในหน้าหนาวช่วงปี 2018 ถึง 2019 แล้วล่ะก็ จะต้องไปกันให้ได้
1. Abashiri Drift Ice
ที่ฮอกไกโดเมื่อถึงช่วงฤดูหนาวก็จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติอันสวยงามเกิดขึ้นมากมาย ธารน้ำแข็งอาบาชิริ (Abashiri Drift Ice : 網走流氷) เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เมืองอาบาชิริอยู่ติดกับทะเลโอค็อตสก์ ถือเป็นจุดชมธารน้ำแข็งที่อยู่ส่วนใต้ที่สุดของขั้วโลกเหนือ ดังนั้นไม่ต้องไปไกลถึงแถบทะเลอาร์กติกเราก็สามารถสัมผัสบรรยากาศแบบขั้วโลกเหนือได้ นักท่องเที่ยวสามารถไปชมปรากฏการณ์ธารน้ำแข็งอาบาชิริได้ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ถึง 3 เมษายน 2019 และสามารถขึ้นเรือตัดน้ำแข็งออโรร่าไปชมบรรยากาศอันสวยงามได้
ที่ตั้ง : 1 Kaiyokoen, Monbetsu-shi, Hokkaido
การเดินทาง : จากสถานี Abashiri (網走駅) ขึ้นรถบัสมุ่งหน้าไปยัง Aurora boat termimal ลงที่สถานีปลายทาง Ryuhyo-saihyosen-noriba (流氷砕氷船のりば) ใช้เวลา 10 นาที
ค่าใช้จ่าย : เรือออโรร่า ราคาท่านละ 3,300 เยน (ประมาณ 990 บาท)
แผนที่ : https://goo.gl/maps/LyEgPrftrq62
2. Kamakura Festival
ไม่ใช่แค่ที่เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโดเท่านั้นที่มีเทศกาลหิมะประจำปี แต่บริเวณตอนบนของเกาะฮนชูของญี่ปุ่น แต่ละจังหวัดก็มีการจัดเทศกาลหิมะที่เป็นประเพณีของญี่ปุ่นแท้ๆ เรียกว่า เทศกาลคามาคุระ (Kamakura Festival : 鎌倉祭り) สถานที่ที่แนะนำในการไปเที่ยวชมเทศกาลนี้คือเทศกาลคามาคุระที่เมืองยูนิชิกาว่า (Yunishigawa Kamakura Festivals : 湯西川温泉かまくら祭) สถานที่ออนเซ็นอันโด่งดังไม่ไกลจากเมืองมรดกโลกอย่าง นิกโก้ (Nikko : 日光) ระหว่างช่วงปลายเดือนมกราคม ถึง ต้นเดือนมีนาคม 2019 รับรองเลยว่านักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศแสนโรแมนติกที่เต็มไปด้วยบ้านหิมะคามาคุระหลังน้อยประดับไฟเรียงรายอยู่ทั่วบริเวณ
ที่ตั้ง : 1042 Yunishigawa, Nikko-city, Tochigi
การเดินทาง : จากสถานี Yunishigawa Onsen (湯西川温泉駅) ขึ้นรสบัส Nikko Kotsu Dial Bus ไปยังป้ายสุดท้าย Yunishigawa Onsen (ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที
เวลา : 09:00-21:00 น. (26 มกราคม 2018 ถึง 3 มีนาคม 2019)
ค่าใช้จ่าย : 1วัน ผู้ใหญ่ 510 เยน (ประมาณ165 บาท) เด็ก 250 เยน (ประมาณ 75 บาท)
เฉพาะกลางคืน 300 เยน (ประมาณ 90 บาท)
แผนที่ : https://goo.gl/maps/YY7cM4c4FGB2
3. Ginzan Onsen
ฤดูหนาวเป็นฤดูกาลที่เหมาะกับการไปแช่ออนเซ็นมากที่สุด หากเพื่อนๆ กำลังจินตนาการถึงการลงไปแช่อ่างน้ำร้อนอุณหภูมิกำลังพอเหมาะท่ามกลางอากาศหนาวห้อมล้อมด้วยธรรมชาติสวยๆ มีหิมะตกลงมาให้พอเป็นพิธีแล้วล่ะก็ เราขอแนะนำ กินซัน ออนเซ็น (Ginzan : 銀山温泉) สถานที่พักตากอากาศอันโด่งดังในภูมิภาคโทโฮคุที่เต็มไปด้วยบ่อน้ำร้อนให้แช่ในเรียวกังที่ให้บรรยากาศญี่ปุ่นยุคเก่าขนานแท้
การเดินทาง : จากโตเกียวนั่งรถไฟ JR Yamagata Shinkansen ไปยังสถานี Oishida Station (大石田駅) จากนั้นขึ้นรถบัสมุ่งหน้า Ginzan Onsen อีกประมาณ 35 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/MFrCXEDLgew
4. Jigokudani Monkey Park
นอกเหนือจากภูเขาไฟฟูจิและดอกซากุระที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นแล้ว ก็มีภาพของเจ้าลิงหิมะแห่งจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park : 地獄谷野猿公苑) ใน จ.นากาโนะ ที่ลงมาแช่น้ำร้อนท่ามกลางหิมะนี่แหละที่โด่งดังไปทั่วโลก เจ้าลิงหิมะเหล่านี้เป็นลิงที่อาศัยอยู่บริเวณนี้อยู่แล้วเราจึงสามารถพบเห็นพวกมันได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้าอยากเห็นภาพฝูงลิงพากันลงมาแช่ออนเซ็นคลายความหนาวก็ต้องเป็นฤดูหนาวเท่านั้น
ที่ตั้ง : 6845, Hirao, Yamanouchi Town
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Yudanaka (湯田中駅) ต่อรถบัส Shigakogen ใช้เวลา 7 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/RfSzb2ZBHNz
5. Shirakawago
หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawago : 白川郷) หมู่บ้านมรดกโลกที่มองจากมุมไหนก็สวยสะดุดตานักท่องเที่ยว ด้วยตัวบ้านโบราณที่ยังคงสภาพไว้ดังเดิม ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติอันแสนงดงาม ชิราคาวาโกะในฤดูหนาวถือเป็นช่วงพีคของที่นี่เลยก็ว่าได้เพราะเราจะได้เห็นปุยหิมะสีขาวตกลงมาปกคลุมไปทั่วหมู่บ้านราวกับภาพวาด
ที่ตั้ง : Shirakawago-Mura, Onogun, Gifu 501-5600
การเดินทาง : จากโตเกียวนั่งรถไฟ Hokuriku Shinkansen ไปยังสถานี Toyama (富山駅)จากนั้นต่อรถบัสไปยัง Shirakawago ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง
แผนที่ : https://goo.gl/maps/ATriNKaxCzB2
ฤดูหนาวในญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งฤดูที่น่าไปค้นหามากๆ เลยว่าไหมคะ ถึงแม้อากาศจะหนาวแต่เชื่อสิถ้าได้ไปเป็นความงดงามของธรรมชาติหรือเทศกาลต่างๆ ที่รอคอยต้อนรับเราอยู่แล้วจะลืมความหนาวนั้นไปเลย
เรื่องจาก : jw-webmagazine
รูปจาก : matcha-jp1, matcha-jp2, kankou-gifu, logcamera, travel.tochigiji, info-yamanouchi