แนะนำ 10 สถานที่ ! อัญมณีแห่งคุมาโมโตะ (Kumamoto) ที่ถูกซ่อนไว้

สถานที่ที่สวยงามที่ยังคงถูกซ่อนเร้น เทศกาลพื้นบ้านที่มีมาแต่โบราณของเมืองอุกิ อุโตะ และมิซาโตะในจังหวัดคุมาโมโตะ แห่งภูมิภาคคิวชู กำลังจะถูกเปิดเผยแล้ว เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นต้องเคยได้ยินชื่อจังหวัดคุมาโมโตะกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะผ่านเจ้ามาสคอตหมีดำ ขี้เล่น สุดทะเล้น อย่าคุมามง หรือผ่านปราสาทคุมาโมโตะ แต่จริง ๆ แล้วที่นี่ยังมีสถานที่ เทศกาลอีกมากมาย ที่น้อยคนจะรู้จักอยู่อีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำให้ได้รู้จักกันคร่าว ๆ นะคะ เริ่มกันที่แรกกันเลย

 

1. ชายหาดโอโคชิกิ (Okoshiki Beach)

ชายหาดโอโคชิกิ ชายหาดฝั่งทางตอนเหนือของคาบสมุทรอุโตะ เป็นชายหาดขึ้นชื่อเรื่องความงามจากตะวันตกดิน และหาดสวยงามจนติดอันดับท็อป 100 ในญี่ปุ่น เมื่อตะวันเริ่มตกดิน น้ำเริ่มลด ความงามจะถูกเผยออกมาให้เห็นอย่างช้า ๆ พื้นชายหาดที่เป็นลายริ้วคลื่น ที่ถูกย้อมด้วยสีจากตะวันที่กำลังลาลับขอบฟ้าเบื้องหลัง เป็นภาพที่ชวนฝันประทับใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ที่มาของชื่อชายหาดแห่งนี้มาจากจักรพรรดิเคโกะ ที่เสด็จทอดพระเนตรตะวันตกดิน ณ ที่แห่งนี้

ที่ตั้ง : Toguchimachi, Uto, Kumamoto

การเดินทาง : จากสถานี Oda เดินต่อประมาณ 15 นาที

 

2. เกาะทาวาเระ (Tawarejima)

เกาะทาวาเระ หรือ ทาวาเระชิมะ ตั้งอยู่บริเวณทะเลอาริอาเคะ เป็นเกาะเล็ก ๆ ถูกค้นพบในสมัยเกียวโตยังคงเป็นเมืองหลวงเดิม มีอายุมากกว่า 1,000 ปี มีชื่อเสียงจากการถูกใช้เป็นสถานที่หลักในวรรณกรรมคลาสสิคในยุคนั้น โดยมีการกล่าวถึงชื่อสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะ ทั้งยังมีอุทยานแห่งชาติสุมิโยชิ ที่เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของเกาะ เป็นจุดไฮไลท์ถ่ายภาพสวย ๆ ยามตะวันลับขอบฟ้า ถ้ามาในช่วงเดือนมิถุนายน บริเวณโดยรอบจะเต็มไปด้วยดอกไฮเดรนเยียสวยงาม

ภายในสวนยังมีอนุสรณ์ของ Mary Drew-Baker นักจิตวิทยา ชาวอังกฤษ ผู้ที่ถูกขนานว่าเป็น มารดาแห่งท้องทะเล และเป็นนักวิจัยทางชีววิทยาที่ทุ่มเทงานวิจัยด้านวงจรของสาหร่ายสีแดง (Porphyra umbilicalis) ต่อมาได้มีนักวิจัยชาวญี่ปุ่น เซกาว่า โซกิชิ (Segawa Sokichi) ได้นำผลวิจัยของเธอมาทดลองที่เกาะทาวาเระ และประสบความสำเร็จจนกลายเป็นสาหร่ายที่อยู่ในซูชิทุกวันนี้ ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งเพาะสาหร่ายขึ้นชื่อของญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง

สถานที่ : Sumiyoshi Nature Park

ที่ตั้ง : Sumiyoshi Machi, Uto City, Kumamoto

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Sumiyoshi  โดยสารแท็กซี่ประมาณ 15 นาที

 

3. ถนนบนท้องทะเล (Nagabeda Seabed Road)

ถนนพิศวงชวนลึกลับแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอุโตะ ถนนสายนี้จะมองเห็นได้เฉพาะช่วงน้ำลดเท่านั้น ปกติถนนสายนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยน้ำทะเล จนดูเหมือนมันลอยอยู่ในทะเล แต่แท้จริงแล้วความลับของถนนนี่ก็คือทางของชาวประมงที่ทำฟาร์มสาหร่ายทะเล หอย และสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ โดยจะนำรถเข้าไปในบริเวณช่วงน้ำลด และเมื่อน้ำขึ้นก็จะเห็นเพียงเสาไฟฟ้าที่เรียงรายอยู่ ด้วยความแปลกตา และกลิ่นอายราวกับอยู่ในโลกของ Ghibli ในเรื่อง Spirited Away จึงมักมีนักท่องเที่ยวเวียนมาชมวิวตอนพลบค่ำ ที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีส้มจากดวงอาทิตย์ และไฟจากเสาไฟฟ้าเมื่อตะวันลาฟ้าไปแล้ว

ที่ตั้ง : Nagabeta, Sumiyoshi Machi, Uto, Kumamoto

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Sumiyoshi  โดยสารแท็กซี่ 3 นาที

 

4. อุโมงค์ฮาชิกาคุ ( Hachikaku Tunnel)

อุโมงค์ลักษณะแปลกตา ปกติถ้านึกถึงอุโมงค์ทั่วไปก็จะเป็นแบบกลม ๆ ธรรมดา แต่ที่นี่มิซาโตะมาจิ (Misatomachi) คุณจะสามารถค้นพบความพิศวงที่แตกต่างจากที่อื่น ๆ นั่นก็คือ อุโมงค์แปดเหลี่ยม เดิมทีอุโมงค์แห่งนี้เคยเป็นอุโมงค์รถราง Yuen Railway ตั้งแต่ช่วงปี 1964 มาก่อน ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการถล่มของดินหินทั้ง 2 ข้างทาง

ด้วยความแตกต่างจากที่อื่น ๆ ทั้งบรรยากาศรอบ ๆ ทำให้สถานที่นี้กลายเป็นที่นิยม และจุดถ่ายรูปยอดนิยม ผู้ที่มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ สามารถเดินตามทางป่าที่เป็นคอร์สทางเดินป่า ชมวิวทิวทัศน์รอบข้างได้อย่างเพลิดเพลิน ระหว่างทางจะพบกับสะพานหินฟุตามาตะ (Futamata) ไม่หมดแค่นั้นที่นี่ยังมีเรื่องออนเซ็น ที่จะทำให้คุณที่เหนื่อยล้าจากการเดินป่าได้ผ่อนคลายอีกด้วย

ที่ตั้ง : 852 Komushiro, Misatomachi, Shimomashiki, Kumamoto

การเดินทาง : จากสถานี JR Matsubase โดยสารแท็กซี่ประมาณ 25 นาที

 

5. สะพานฟุตามาตะ (Futamata-bashi)

สะพานเก่าแก่ที่ไม่ใช่สะพานธรรมดาถูกสร้างขึ้นช่วงปี 1829 - 1830 ในเมืองมิซาโตะเป็นสะพานที่มีชื่อเสียง รู้จักกันในชื่อ “สะพานหัวใจ”  ด้วยรูปทรงครึ่งวงกลม ที่ถูกแสงตกกระทบจนกลายเป็นรูปหัวใจอย่างสวยงาม แต่การจะมาชมรูปหัวใจแบบเพอร์เฟค มุมโค้ง เว้า  ที่ได้ทรง แนะนำในช่วงเที่ยงที่แสงส่องลงมาของช่วงเดือนตุลาคม - กุมภาพันธ์ ดังนั้นใครจะมาชมแบบเพอร์เฟคเชฟต้องดูช่วงเวลาดี ๆ ก่อน และที่สำคัญอีกเรื่องก็คือ สถานที่แห่งนี้ยังเป็นจุดที่คู่รักนิยมใช้เป็นที่สารภาพรัก หรือ ขอแต่งงานอีกด้วย

ที่ตั้ง : Komushiro, Misatomachi, Shimomashiki, Kumamoto

การเดินทาง : โดยสารรสบัสจากสถานี Sakuramachi ไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง

 

6. ท่าเรือมิสุมิตะวันตก (Misumi West Port)

ท่าเรือหินเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ถูกสร้างขึ้นในปี 1887 เป็นท่าเรือที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่เกิดจากการนำหินมาวางเรียงต่อ ๆ กัน ยาวประมาณ 756 เมตร บริเวณโดยรอบยังคงความดั้งเดิมมาตั้งแต่สร้างเสร็จ เช่น อาคารบ้านเรือน ทางระบายน้ำ ทุกอย่างรอบ ๆ และในบริเวณใกล้ ๆ ท่าเรือก็มีสิ่งปลูกสร้างในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมหลงเหลือไว้ ซึ่งก็คือโกดังสินค้าทางทะเลที่เป็นสิ่งจำเป็นในยุคนั้น (Kyu Misumi Kaiun Soko) แต่ปัจจุบันแม้ภายนอกจะยังคงเดิม แต่ภายในได้ถูกปรับเปลี่ยนกลายเป็นร้านอาหารที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมท่าเรือแห่งนี้

ที่ตั้ง : Misumi Ura, Misumi, Uki, Kumamoto

การเดินทาง : จากสถานี JR  Misumi โดยสารบัส ลงที่ป้าย  Misumi Nishiko-mae และเดินต่อประมาณ 3 นาที

 

7. เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเล (Shiranui Uminohi Matsuri)

เทศกาลดอกไม้ไฟกลางทะเล หรือ ชิรานุอิฮิ (ดวงไฟปริศนา) เป็นเทศกาลที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลพื้นบ้านที่ผสมผสานทั้งวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ศาสนา อันโดดเด่น และยังคงรักษากันต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน มีการแสดงกลองไทโกะ เดินแห่คบเพลิง ยิงธนูลงไปในทะเล ดอกไม้ที่ยิงขึ้นจากกลางน้ำ โดยมีโทริอิสีแดงกลางน้ำเป็นพื้นหลัง ซึ่งภาพเหล่านี้เป็นภาพที่เริ่มหาชมได้ยากในหลาย ๆ พื้นที่ แต่ที่แห่งนี้ยังคงรักษาความดั้งเดิมที่จะทำให้ผู้มาเยี่ยมชม สามารถสัมผัสถึงประวัติศาสตร์ ประเพณี กลิ่นอายของญี่ปุ่นเดิม ๆ ได้อย่างไม่ผิดหวังแน่นอน ช่วงเวลาของเทศกาลจะอยู่ในช่วงฤดูร้อนของทุกปี

ที่ตั้ง : Matsuai Shinkō (Matsuai New Port)

การเดินทาง : จากสถานี Matsubase โดยสารบัสมาทาง Matsuai ประมาณ 15 นาที และเดินต่อไปท่าเรืออีก 5 นาที
*สามารถรับชมได้หลายจุดตามบริเวณท่าเรือ หรือ จากทางศาลเจ้า

 

8. เทศกาลอุโตะจิโซ (Uto Jizo Festival)

1 ใน 3 เทศกาลใหญ่ประจำฤดูร้อนของจังหวัดคุมาโมโตะ เทศกาลนี้เด็ก ๆ ในชุมชนจะนำของออกมาวางที่รูปปั้นหินจิโซ แล้วประดับตกแต่งให้สวยงามตลอดทาง โดยความเชื่อนี้เริ่มขึ้นเมื่อ 300 – 400 ปีก่อน ที่มีอัตราการเสียชีวิตของเด็ก ๆ สูงมาก จึงมีการสร้างรูปปั้นหินจิโซที่เป็นพระโพธิสัตว์เพื่อคุ้มครองป้องกันเด็ก ๆ ในชุนชม และผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ให้มีสุขภาพแข็งแรง แคล้วคลาดจากอันตรายตามความเชื่อของญี่ปุ่น ต่อมาเมื่อประชากรเพิ่มขึ้นเทศกาลก็เริ่มใหญ่ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองฤดูร้อน และขอบคุณรูปปั้นหินจิโซ นอกเหนือจากนั้นชาวบ้านจะนำของที่ใช้ในครัวเรือน หรือ ของใช้ประจำวัน มาสร้างงานศิลปะ “Tsukurimono” ในเวลากลางคืนจะมีการแสดงดนตรี และดอกไม้ไฟ เทศกาลจัดขึ้นทุกวันที่ 23 – 24 สิงหาคมของทุกปี

ที่ตั้ง : Uto city, Kumamoto

การเดินทาง : โดยสารรถไฟลงที่สถานี JR Uto

 

9. เทศกาลเชิดสิงโต (Uto lion dance)

เทศกาลเชิดสิงโต หรือ ชิชิมาอิ การแสดงพื้นเมืองที่ได้รับมาอิทธิพลจากจีนมีความเป็นมากว่า 270 ปี และสืบทอดมาอย่างกลมกลืนในวัฒนธรรมญี่ปุ่น มีความเชื่อว่าเป็นการขจัดสิ่งชั่วร้าย และเรียกสิ่งดี ๆ เข้ามา โดยถ้าชิชิมาอิงับหัวเด็ก เด็กคนนั้นก็จะโตมามีสุขภาพแข็งแรงตลอดปี ดังนั้นเทศกาลนี้ผู้ปกครองต่างพาลูกหลานมาชมการแสดง และให้ชิชิมาอิงับหัวกัน เทศกาลจะจัดในวันที่ 19 ตุลาคมของทุกปี ในช่วงของฤดูใบไม้ร่วง

ที่ตั้ง : Nishioka Jingu, Shinmemachi, Uto, Kumamoto

การเดินทาง : จากสถานี JR Uto ต่อแท็กซี่มาประมาณ 5 นาที

 

10. บันไดหินมิซากะ (Misaka Yuuhodou)

บันไดหินที่มีอายุมากกว่า 1,200 ปี ทอดยาวจากตีนเขาจนสู่ยอดเขา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของวัดไดอนเคียว การเดินทางมาวัดจะต้องปีนบันไดหินที่มีจำนวน 3,333 ขั้นขึ้นมา และความพิเศษของบันไดนี้คือ หินที่ถูกนำมาจากนานาประเทศ เช่น จีน เกาหลี อินเดีย รัสเซีย บราซิล อเมริกา แอฟริกาใต้ และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก ไม่ใช่แค่นั้น ธรรมชาติรอบด้านก็ยังสวยงาม สงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ทั้งยังเป็นจุดชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และ ใบไม้แดงในฤดูใบไม้แดงอีกด้วย

ที่ตั้ง : Sakamoto, Misato, Shimomashiki, Kumamoto

การเดินทาง : จากสถานี Ogawa โดยสารรถแท็กซี่ประมาณ 1 ชั่วโมง

 

แหล่งที่มาเรื่องและภาพ : jpninfo

FOLLOW US ON
FACEBOOK