ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา คงมีเพื่อนๆไม่น้อยเลยที่ตั้งใจจะไปเที่ยวพักผ่อนหนีร้อนในประเทศญี่ปุ่น ผมกฌเป็นอีกคนหนึ่งที่ตั้งใจเช่นนั้น และสถานที่ยอดนิยมก็คงไม่พ้น 2 เมืองหลักที่หลายๆคนต้องการและตั้งใจจะไปเที่ยว นั่นคือเมืองโตเกียวและโอซาก้า ส่วนของผมนั้นตั้งใจจะไปโตเกียวอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง รวมถึงอยากชมดอกซากุระด้วย
แต่ในความเป็นจริงแล้วดอกซากุระจะบานในช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งช่วงสงกรานต์นั้นก็ปาเข้าไปถึงกลางเดือนเมษายนแล้ว แล้วมันจะมีดอกซากุระเหลือให้ชมอีกเหรอ? และนั่นคือที่มาของการเลือกไปทะเลสาบคาวากุจิโกะในครั้งนี้
ผมมีเวลาแค่วันที่ 15 – 17 เมษายนเท่านั้น สำหรับวันที่จะไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ แต่ในคืนก่อนบินผมได้เช็คพยากรณ์อากาศแล้วว่า มีแค่เพียงวันที่ 16 เท่านั้นที่ฟ้าใสและไม่มีฝน เลยตัดสินใจเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะในวันที่ 16 ช่วงเช้ามืด ในตอนแรกนั้นตั้งใจว่าจะเดินทางด้วยรถบัส แต่เช็คเที่ยวเช้าสุดแล้วกลับไม่มีให้จอง นั่นก็คงจะหมายความว่าบัสรอบนั้นถูกจองเต็มหมดแล้วนั่นเอง เลยตัดสินใจว่าจะนั่งรถไฟแทน ซึ่งจะใช้เวลามากกว่าและค่าเดินทางที่มากกว่าเล็กน้อย
ผมเริ่มต้นการเดินทางจากที่พักย่านนิฮงบาชิโดยการนั่งรถไฟใต้ดินสายโทไซ(Tozai Line) ไปลงที่สถานีนาคะโนะ(Nakano Station) ต่อรถสายชูโอะ(JR Chuo Line)ไปลงที่สถานีทาคาโอะ(Takao) ขึ้นชูโอะเมนไลน์(Chuo Main Line)ไปลงที่สถานีโอสึคิ(Otsuki Station) และนั่งสายฟูจิเคียวโคะ(Fujikyoko Line)ไปลงที่สถานีคาวากุจิโกะ(Kawaguchiko Station) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และค่าเดินทางอยู่ที่ราวๆ 2,400เยน ต่อเที่ยว
สำหรับเพื่อนๆที่พักที่อื่นๆ ก็เลือกเส้นทางให้เหมาะสมด้วยนะครับ ลองดูได้ที่เว็บ http://hyperdia.com/ หรือใครสะดวกนั่งบัสก็สามารถทำได้ ใช้เวลาเดินทางน้อยกว่าและประหยัดกว่าครับ
พนักงานขับรถไฟกับฟูจิซัง
รถไฟที่ผมนั่งนั้นก็ได้ไปจอดอยู่ที่สถานีฟูจิซัง(Fujisan) เพื่อเปลี่ยนเส้นรถนิดหน่อย ถึงตรงนี้เรายังไม่ต้องลงจากรถ แค่รอพนักงานเค้าจัดการแค่นั้น ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปเล่นรอได้เลย แต่ถึงอย่างงั้นก็ถ่ายได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวรถก็ออกแล้ว
ถ่ายจากในรถไฟระหว่างรอ
ฟ้าใส เห็นฟูจิซังชัดแจ๋ว
ระหว่างทางบนสายฟูจิเคียวโคะนั้นก็เต็มไปด้วยเหล่านักเรียนวัยรุ่น แต่พอถึงสถานีฟูจิคิวไฮแลนด์(Fuji Q Highland)เท่านั้นแหละ ทุกคนลงจากรถกันหมดเลย ! มีสาวๆน่ารักเยอะด้วย อยากลงตามไปบ้าง ฮ่าๆๆๆ
คนขับรถไฟกำลังพาทุกคนไปเจอกับซากุระที่สวยงาม !
นั่นไงสถานีคาวากุจิโกะ !
รถน่ารักเชียว
พอมาถึงสถานีคาวากุจิโกะ ก็ทำการซื้อพาสของรถเรโทรบัส(Retro Bus)ในราคา 1,000เยนเพื่อความสะดวก (ใช้ได้สองวันเลยครับ คุ้มมากๆ แต่ผมแค่ขี้เกียจรอจ่ายเงินเท่านั้นเอง) แต่คนต่อคิวขึ้นเรโทรบัสเยอะมาก ! ก็เลยต้องรอรถกันนิดหน่อย จนมีรถมารับ ก็ขึ้นไปลงที่สถานี Art Museum แล้วเดินเลาะริมทะเลสาบไปเรื่อยๆ ตรงนี้ถือเป็นจุดไฮไลท์ของการชมซากุระที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะเลยล่ะ และช่วงนี้ไปที่นี้ก็ตรงกับเทศกาลชมดอกซากุระ จึงมีงานเล็กๆน้อยๆพร้อมร้านค้าร้านอาหารออกบูธด้วย
วันนี้มีช่างภาพชาวญี่ปุ่นมาถ่ายภาพกันเยอะมาก บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็มาคนเดียว ดังนั้นตามจุดต่างๆจะเห็นคนตั้งกล้องกันเต็มไปหมด สวนนักท่องเที่ยวก็เดินชมถ่ายรูปไปตามทาง วันนี้ไปค่อนข้างเช้าคนเลยไม่เยอะมาก แต่พอถึงช่วงเที่ยงแล้วคนก็เริ่มมากันเยอะขึ้น และทำให้การถ่ายภาพนั้นยากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ระหว่างถายภาพนั้นก็เจอเหตุการณ์ประทับใจและไม่ประทับใจปนๆกันไป เรื่องที่ประทับใจก็คือ ช่างภาพญี่ปุ่นหลายๆคนใจดีมาก ระหว่างที่ผมกำลังเดินมองหามุมตั้งกล้องไปเรื่อยๆ ก็เจอมุมหนึ่งที่น่าสนใจ แต่มีลุงช่างภาพตั้งกล้องรออยู่ พอเค้าหันมาเห็นว่าผมกำลังจะตั้งกล้องข้างๆ ลุงเค้าก็ขยับขากล้องออกไปให้ผมเข้าไปตั้งกล้องด้วย และลุงแกพอถ่ายเสร็จแล้วก็ลุกจากตรงนั้นเลย ลุงแกใจดีมากๆ
ส่วนเรื่องไม่ประทับใจก็เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง กำลังดึงโน้มกิ่งซากุระมาถ่ายรูปด้วย แล้วยังเกะกะขวางทางคนอื่นอีก คนญี่ปุ่นแถวนั้นก็มองกันด้วยความรู้สึกไม่ดี รวมถึงช่างภาพรอบๆนั้นก็เช่นกัน
คนไทยมาเที่ยวที่นี่ค่อนข้างเยอะ ไปที่ไหนก็ได้ยินเสียงภาษาไทย แล้วทุกคนก็ดูมีความสุขกับซากุระและภูเขาไฟฟูจิที่นี่กันด้วย
ระหว่างที่กำลังถ่ายรูปตามจุดต่างๆอยู่นั้น ก็เห็นอะไรบินอยู่ในทะเลสาบ ..
นั่นเค้ากำลังถ่ายวีดิโออยู่นี่เอง ! เห็นเค้าบินวนไปวนมาหลายรอบละ อยากเห็นวีดิโอของเค้าเหมือนกันนะ
หลังจากนั้นก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ สนุกมากๆ
เสียดายที่วันนี้ไม่สามารถอยู่ชื่นชมความงามของซากุระได้นานนัก ผมและเพื่อนต้องกลับฮาราจุกุภายในบ่าย 3 โมง จึงต้องบอกลาซากุระและฟูจิซัง แต่เหตุการ์ณที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ..
ในระหว่างนั่งรถไฟมานั้น ผมได้ทำการจองบัสออนไลน์ไว้ แต่ขากลับระหว่างที่รอรถบัสนั้น รสบัสกลับเต็มจนไม่สามารถขึ้นรถเพื่อกลับไปที่สถานีคาวากุจิโกะได้ แถมยังเต็มต่อเนื่องอีกหลายคัน จนไม่ทันเที่ยวรถที่จองไว้ ตอนนั้นเซงสุดๆ สักพักก็มีบัสที่ว่างให้ขึ้นมาจอด หลังจากลงรถก็รีบไปจุดขายตั๋วรถพร้อมหาเที่ยวรถที่ไวที่สุดกลับ และก็ได้ทำการจองบัสไปลงที่ชิบูย่าในราคา 1,800เยน
ก็เป็นทริปที่วุ่นๆและเหนื่อยดีครับ แต่ก็มีความสุขกับสิ่งที่ได้เจอมากๆ เสียดายที่เวลาน้อยไปนิด
ขอลาไปด้วยภาพซากุระอีกเล็กน้อยในทริปนี้ครับ
