https://kumamon-official.jp/
จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto : 熊本県) ตั้งอยู่บนเกาะคิวชูของญี่ปุ่น บางคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูชื่อจังหวัดนี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากพูดถึงเจ้าหมีดำแก้มแดงจอมทะเล้นอย่างคุมะมงแล้วล่ะก็เชื่อว่าคงจะร้องอ๋อไปตาม ๆ กัน นั่นแหละค่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเมืองนี้กันให้มากขึ้น ไปดูกันว่าจังหวัดคุมะโมโต้ของคุมะมงนั้นมีอะไรน่าสนใจที่ต้องไปทำให้ได้บ้าง
Kumamoto Castle (熊本城)
https://www.travelbook.co.jp/topic/34613
ปราสาทคุมาโมโตะ (Kumamoto Castle : 熊本城) เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญที่จะต้องมาให้ได้เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเนื่องจากตัวปราสาทได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวเมื่อปี 2016 ทำให้ในตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าไปชมด้านในได้ แต่บริเวณรอบ ๆ ปราสาทยังสามารถเข้าไปเดินชมความงามได้อยู่ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เราจะสามารถทำได้แค่ชื่นชมจากที่ไกล ๆ แต่ก็ถือซะว่าให้เวลาปราสาทได้พักผ่อนจนกลับมาสวยงามอีกครั้งแล้วกันค่ะ
พิกัด : 1-1 Honmaru, Chūō-ku, Kumamoto-shi, Kumamoto-ken 860-0002, Japan
เวลา : เดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน 8.30-18.00 น. เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ 8.30-17.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kumamoto (熊本駅) ขึ้นรถราง Kumamoto City Tram Guide สาย A หรือ B ลงที่สถานี Kumamotojo-Shiyakusho-Mae (熊本城市役所前) เดินต่ออีก 7 นาที
แผนที่ : https://goo.gl/maps/R8rf9m9Rqwn
Mt.Aso (阿蘇山)
ภูเขาไฟอะโซะ (Mt.Aso : 阿蘇山) เป็นภูเขาไฟที่ยังสามารถปะทุได้อยู่ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ อะโซะ คุจู ด้วยความยิ่งใหญ่ของมัน ภูเขาไฟอะโซะจึงกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองคุมาโมโตะ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวบริเวณรอบ ๆ ปากปล่องภูเขาไฟได้ เป็นที่เลื่องชื่อว่าธรรมชาติของที่นี่นั้นสวยงามมาก ๆ หากใครอยากจะลองไปชมความงามกันล่ะก็แนะนำให้เช่ารถขับไปดู เพราะระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปสู่ภูเขาลูกนี้ก็เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้กันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนื่องจากเป็นภูเขาไฟที่ยังมีโอกาสปะทุได้ตลอดเวลาขอแนะนำให้เพื่อน ๆ เข้าไปเช็คสถานะของภูเขาไฟในเว็บไซต์กันก่อนจะดีที่สุดค่ะ ก็อย่างว่า ของสวย ๆ งาม ๆ มักจะเข้าถึงได้ยากนิดนึง แต่รับรองว่าถ้าได้ไปเห็นแล้ว สวยเกินคำบรรยายแน่นอน
พิกัด : Asosan, Takawara, Aso, Kumamoto 869-2223
เวลา : 20 มีนาคม- 31 ตุลาคม 8:30-18:00 น. / พฤศจิกายน 8:30-17:00 น. / 1 ธันวาคม-19 มีนาคม 9:00-17:00 น.
การเดินทาง : สามารถขับรถมาจอดบริเวณลานจอดรถใกล้ปากปล่องภูเขาไฟได้ ค่าจอดรถ 600 เยน (ประมาณ 180 บาท) แต่หากสะดวกมาทางรถไฟหรือบัสสามารถมาได้จากสถานีรถไฟ JR Aso (JR 阿蘇駅) ขึ้นรถบัสมาลงที่สถานีโรปเวย์ Asosan Nishi (阿蘇山西) จากนั้นสามารถนั่งโรปเวย์ต่อไปยังปากปล่องหรือจะเดินก็ได้ (แนะนำให้เช็คสถานะภูเขาไฟล่วงหน้า)
แผนที่ : https://goo.gl/maps/GfV1qEXvqQr
Nabegataki Falls (鍋ヶ滝)
ต่อกันที่น้ำตกธรรมชาติที่มีความสวยงามตระการตามาก ๆ อย่างน้ำตกโนเบกะทาคิ (Nobegataki : 鍋ヶ滝) ตั้งอยู่ที่เมืองโอกุนิ ของเขตอะโซะ จุดเด่นของที่นี่ก็คือนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปชมในถ้ำด้านหลังม่านน้ำตกที่ไหลลงมาจากด้านบนได้ รอบ ๆ ล้อมรอบไปด้วยต้นไปนานาพันธุ์ที่ความสวยงามจะแตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาล นอกจากนี้ในช่วงวันหยุดยาว Golden Week (ต้นเดือนพฤษภาคม) จะมีการเปิดไลท์อัพที่น้ำตกช่วงเวลา 18:30-21:30 น. ด้วย
พิกัด : Nabegadaki Park, Kurobuchi, Oguni, Aso, Kumamoto 869-2502
เวลา : 9:00-17:00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน (ประมาณ 90 บาท) / เด็กประถมและมัธยม 150 เยน (ประมาณ 45 บาท) / เด็กต่ำกว่าประถม ฟรี
การเดินทาง : ต้องขับรถส่วนตัวหรือแท็กซี่เข้ามาเท่านั้น
แผนที่ : https://goo.gl/maps/dbhq9meY39B2
Kurokawa Onsen (黒川温泉)
นอกจากเมืองคุมาโมโต้จะมีธรรมชาติที่สวยงามมาก ๆ แล้ว เมืองนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งออนเซ็นอีกด้วย ดังนั้นจึงมีออนเซ็นมากมายหลายแห่งให้สามารถเที่ยวชมและพักผ่อนได้ แต่ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้ไปกันก็คือ คุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen : 黒川温泉) เพราะถือเป็นเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในคุมาโมโตะ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มีสะพานเก่าเชื่อมระหว่างสองฟากเมือง ด้านล่างเป็นลำธารน้ำเล็ก ๆ ตัดผ่าน มีบ่อออนเซ็นกลางแจ้งมากมายล้อมรอบด้วยธรรมชาติอยู่ภายในเรียวกังแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ หากใครได้มา ขอแนะนำให้ลงแช่ออนเซ็นของที่นี่ แล้วจะรับรู้ได้ถึงความสบายตัวและรีแลกซ์สุด ๆ
พิกัด : Nabegadaki Park, Kurobuchi, Oguni, Aso, Kumamoto 869-2502
การเดินทาง : การเดินทางที่แนะนำคือการเช่ารถ แต่หากไม่สะดวก เมืองนี้สามารถมาได้โดย Highway Bus จากเมือง Fukuoka สถานี Hakata (博多駅) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
แผนที่ : https://goo.gl/maps/iF2UsG9viuG2
Kumamoto Cuisine
อันต่อมาไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวแต่เราจะมาแนะนำเมนูเด็ดของจังหวัดคุมาโมโตะให้เพื่อน ๆ ได้เก็บไว้ในลิสต์อาหารที่ห้ามพลาดเมื่อมาในเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็น อาคาอุชิด้ง (Akaushi Don : 赤牛丼) ข้าวหน้าเนื้ออาคาอุชิ เนื้อวากิวชั้นดีของขึ้นชื่อจากอะโซะ หรือว่าจะเป็นรากบัวมัสตาร์ด (Karashi Renkon : からしレンコン) ทอดกรอบ ๆ ทานเป็นของว่าง ตบท้ายด้วยขนมหวานอย่างอิคินาริ ดังโกะ (Ikinari Dango : いきなり団子) โมจินุ่มนิ่มสอดไส้ด้วยมันหวานและถั่วแดง
เป็นยังไงกันบ้างคะ พอจะมีไอเดียวางแผนเที่ยวคุมาโมโตะทริปหน้าแล้วรึยัง ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตแผ่นดินไหวไปเมื่อปี 2016 และหลายส่วนก็เพิ่งจะได้รับการฟื้นฟู บางส่วนก็กำลังพยายามซ่อมแซมอย่างเต็มที่ให้กลับมาสวยดังเดิมอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง แต่ไม่ว่ายังไง เมืองนี้ก็ยังคงความสวยงามอยู่เสมอค่ะ รวมไปถึงเจ้าคุมะมงที่กำลังยิ้มกว้างรอการมาเยี่ยมเยียนของทุกคนอยู่ทุกวันเลย
แหล่งที่มาเรื่องและภาพ : jw-webmagazine