When I was in Tokyo #15: ถึงเวลาอำลา ‘พิธีจบการศึกษา’

บทนำ

เพื่อนๆของเราในเอกญี่ปุ่นเกือบ 30 คนพร้อมใจกันเลือกมหาวิทยาลัยที่จะไปแลกเปลี่ยนในจังหวัดต่างๆ ที่ไม่ใช่ ‘โตเกียว’ แต่เรากลับต่างกว่าคนอื่นเพราะเราตัดสินใจเลือกไปเรียนในเมืองหลวงของญี่ปุ่นแห่งนี้ ตอนที่บอกเพื่อนๆ ว่าเราจะไปโตเกียว ทุกคนพากันพูดว่า ‘โห ! โตเกียวเลยเหรอ แพงนะ’ หรือไม่ก็ ‘ไปโตเกียว ไปทำอะไร?’ เราเริ่มหวั่นว่าสิ่งที่เราเลือกมันถูกต้องไหม เราจะอยู่ยังไง แถมนอกจากเงินค่าเทอมที่มหาวิทยาลัยออกให้เราก็ไม่ได้เงินสนับสนุนอะไรอีก เงินจะพอไหม เตรียมใจไว้เลยว่าต้องลำบากแน่ๆ แต่เชื่อไหม ว่าสิ่งที่เราได้เจอ ได้เรียนรู้มาจากโตเกียว ให้อะไรเรามากกว่า ‘ของแพง’ ให้อะไรเรามากกว่า ‘เมืองหลวงที่ไม่มีอะไร’ เสียอีก When I was in Tokyo จะเป็นเรื่องที่ให้ทุกคนได้เห็นภาพของโตเกียวมากขึ้น จะทำให้ได้รู้ว่าชีวิตในโตเกียวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด

Chapter 1

#1 : เปิดหอพักนักศึกษาราคา 17,000¥ ในเมืองที่ว่ากันว่าค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก เปิดหอพักเด็กแลกเปลี่ยนในโตเกียวให้ดูกันทุกซอกทุกมุม นี่แหละที่ที่เราจะอยู่ตลอด 1 ปีนี้

#2 : เริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย โตเกียวก็เช่นกัน จะมาอยู่ญี่ปุ่นต้องทำอะไรบ้าง มีการต้อนรับเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนยังไงบ้าง มาหาคำตอบพร้อมกันเลย

#3 : มหา’ลัยของเราน่าอยู่ อู้หูงานดีทุกคน พาไปรู้จักกับมหาวิทยาลัยโคะคุชิคัง ที่ๆ คอยดูแลเรามาตลอด 1 ปี รวมถึงพาไปดูชีวิตในมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น สนุกขนาดไหนห้ามพลาด

#4 : ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นเริ่มต้นจาก ฮานามิ ใครจะไปรู้ว่าแค่ไปดูดอกไม้จะทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเรามันพัฒนาได้มากขนาดนี้

#5 : จนขนาดนี้ต้องไบโตะ(งานพิเศษ)แล้วล่ะ!? เล่าเรื่องการทำไบโตะ (งานพิเศษ) ครั้งแรกในชีวิตเพื่อแลกกับความอยู่รอดในเมืองใหญ่ที่ทำให้เราได้เห็นคนญี่ปุ่นในมุมมองของลูกค้า

#6 : งบน้อยอ่ะกินอะไรดี ? พาไปหาแหล่งอาหารถูก และอร่อยที่เราชอบแวะเวียนไปตลอด 1 ปี

#7 : ขึ้นชื่อว่าคนญี่ปุ่น... ความสัมพันธ์กับเพื่อน เจ้านาย คนญี่ปุ่นที่บางทีก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด มีอะไรมากมายที่เรายังไม่เข้าใจพวกเขาหรืออาจจะเข้าไม่ถึงเลย

#8 : เมื่อต่างด้าวอยากคาวาอี้แบบสาวญี่ปุ่น รู้แหละว่าเงินมีจำกัด แต่อยากช็อปปิ้งอ่ะมันช่วยไม่ได้ เราจะพาทุกคนไปหาแหล่งช็อปปิ้งถูกๆ ในโตเกียวที่เราชอบไปเอง

#9 : ฉะโด พิธีชงชา กิโมโน พามาดูพิธีชงชาแบบเต็มรูปแบบ จัดเต็มในชุดกิโมโนครั้งแรกในชีวิต ดื่มจริง นั่งจริง เมื่อยจริง

#10 : ทัศนศึกษาฟูจิที่ไม่เห็นฟูจิ เล่าความเฟลแต่ประทับใจกับการไปตามหาฟูจิซังกับทริปครั้งสุดท้ายกับมหาวิทยาลัย

#11 : My routine in 1 day อยู่ๆ มาเกือบจะครบปี ชีวิตก็เริ่มวนลูปไปมา มาดูกันว่าเมื่อมาอยู่ญี่ปุ่นเราต้องทำอะไรบ้างใน 1 วัน

#12 : หิมะตกในเดือนพฤศจิกายน เล่าเรื่องความตื่นเต้นของสองเด็กไทยเมือครั้งมีหิมะหลงฤดูตกในรอบ 50 ปีของญี่ปุ่น

#13 : เรื่องที่รู้สึกขัดใจในญี่ปุ่น ตอนแรกๆ ก็ตื่นตาตื่นใจอยู่หรอก แต่พออยู่มานานๆ เข้าก็รู้สึกคิดถึงสิ่งที่คุ้นชินตอนอยู่ที่ไทยขึ้นมา ที่ไทยทำได้ แต่ที่ญี่ปุ่นทำไม่ได้

#14 : เม้ามอยเพื่อนรัก ความทรงจำสุดแสนประทับใจของเพื่อนๆที่คอยอยู่ข้างๆเราตลอด 1 ปีที่ญี่ปุ่น

#15 : ถึงเวลาอำลา ‘พิธีจบการศึกษา’ ข้อคิดต่างๆ ที่ได้ในวันพิธีจบการศึกษาของนักเรียนแลกเปลี่ยน ในที่สุดการจากลาก็มาถึงจนได้

และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง พิธีจบการศึกษาของพวกเราเด็กแลกเปลี่ยนจัดขึ้นในตอนเช้า พวกเราตั้งแถวยืนเรียงต่อหน้าเหล่าอาจารย์ที่ดูแลเรามาตลอดเกือบ 1 ปี ทุกท่านต่างมอบโอวาทแก่พวกเราด้วยรอยยิ้ม และขอบคุณที่เราเลือกมาที่นี่จนเราได้พบกัน อาจารย์เรียกพวกเราออกไปรับใบประกาศกันทีละคน เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก

ระหว่างรองานเลี้ยงอำลาช่วงบ่าย เรากับใบเฟิร์นพากันออกมาถ่ายรูปกับป้ายมหาวิทยาลัยพร้อมใบประกาศ ไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะไม่ได้เข้าไปนั่งในห้องเรียน จะไม่ได้ฟังเรื่องเล่าสนุกๆ ของเพื่อนต่างชาติ หรือจะไม่ได้มาวิ่งหาที่นั่งในโรงอาหารและรีบกินข้าวก่อนจะเข้าเรียนคาบถัดไปอีกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าคนที่จะเข้าไปนั่งในห้องประชุมของเซ็นเตอร์เพื่อฟังอาจารย์อธิบายกิจกรรมน่าสนุกต่างๆ ไม่ใช่เราแต่จะเป็นรุ่นน้องในปีต่อไปแทน ไม่น่าเชื่อว่าเวลาเกือบปีจะผ่านไปเร็วขนาดนี้

วันอำลาจัดขึ้นก่อนที่เราจะกลับไทยแค่ 2 วัน เรากลับก่อนใครเพื่อนดังนั้นงานเลี้ยงครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอเพื่อนๆ อย่างพร้อมหน้า เราเลยไปขอถ่ายรูปกับทุกคนและถือโอกาสร่ำลาไปซะเลย และบอกพวกเขาว่าเราดีใจแค่ไหนที่ได้มาเจอกันทั้งๆ ที่ต่างคนต่างอยู่กันคนละซีกโลกด้วยซ้ำ

หลังจากวันนั้นก็ได้เวลาเตรียมตัวกลับบ้าน จนถึงตอนนี้ห้องของเราโล่ง ไม่มีของอะไรเหลือแล้วนอกจากกระเป๋าเดินทางและเสื้อผ้าบางส่วน วันสองวันนี้เรามีนัดเลี้ยงส่งกับเหล่าเพื่อนๆ เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับชักชวนทุกคนให้มาเที่ยวหากันบ้าง เราจะเลี้ยงรับรองอย่างดี

วันใกล้ๆ วันกลับมันก็เศร้าอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ที่เศร้าที่สุดแน่นอนต้องเป็นวันที่เราต้องลากกระเป๋าออกจากหอ ใบเฟิร์นไปกับเราด้วย ก่อนจากที่นี่ไปเราต้องไปคืนคีย์การ์ดห้องให้กับโยชิดะซัง มีโอกาสได้ลาเพื่อนแค่บางคนเท่านั้น ภรรยาของโยชิดะซังออกมาส่งเราถึงหน้าประตูหอและยืนส่งเราจนเราลับสายตาไป นั่นคือการอำลากันครั้งสุดท้ายที่ยังประทับใจไม่ลืม ลาก่อน Kokushikan Guest House

ตอนจะขึ้นเครื่องความรู้สึกมันเศร้าจนบอกไม่ถูก ใบเฟิร์นเพื่อนที่ทำอะไรหลายอย่างด้วยกันมาตลอด ตอนนี้เราต้องลากันแล้ว แต่ก็ยังสัญญาว่ากลับไทยไปเราจะมาเจอกันอีกให้ได้ พอเครื่องขึ้น นั่นหมายความว่าเราจะต้องจากญี่ปุ่นไปแล้วจริงๆ เรามองออกนอกหน้าต่าง เราเห็นฟูจิซังอยู่ไกลๆ เราร้องไห้หนักมากตอนนั้น ยิ่งเครื่องบินขึ้นไปสูงเท่าไหร่มันยิ่งเศร้า เราคิดถึงเพื่อน คิดถึงอาจารย์ คิดถึงทุกอย่างที่ได้ทำที่นี่ แต่ชีวิตมันต้องก้าวต่อ เราจะกลับไปทำตามฝันและจะกลับมาอีกแน่นอน

สุดท้ายนี้ขอบคุณพ่อกับแม่ที่สุดท้ายแล้วก็ยอมให้มาจนได้ ขอบคุณอาจารย์ที่คณะและจุฬาฯที่ให้โอกาส ขอบคุณ Kokushikan ที่ยินดีรับเราและดูแลกันเป็นอย่างดี ขอบคุณเพื่อนๆ นานาชาติและบัดดี้ญี่ปุ่นทุกคน ตอนนี้แต่ละคนก็มีทางของตัวเองแล้ว ไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหมแต่หวังว่าคงสบายดี และขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณค่ะ

 

เรื่องจาก : ประสบการณ์ตัวเอง

FOLLOW US ON
FACEBOOK