Special trip: การเดินทางไม่สิ้นสุด
EP 01
EP 02-Part1
EP 02-Part2
หลังจากชมวิวตรงสะพาน ไหว้ศาลเจ้าขอพรกันแล้ว
เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า เดินเลาะริมถนนไปอีกไม่ไกลจะเจอกับย่านร้านค้าต่าง ๆ ที่จุดแวะพักของทางด่วนบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง
ส่วนใหญ่เป็นพวกของฝาก
ด้านในมีคนเยอะพอสมควรกำลังเลือกหาของดีประจำเมือง เท่าที่เห็นจะเป็นขนมสำหรับกินกับชา
มีโชยุ โปสการ์ด และมีพวกงานของใช้ที่ทำจากไม้สน กลิ่นหอมมาก ๆ
ใกล้ ๆ กันมีร้านอาหารดูโบราณหน่อย ๆ แต่วิธีสั่งต้องกดปุ่มเลือกเมนูบนตู้
จุดนี้สำหรับคนไม่รู้ภาษา จะมีปุ่มสำหรับเปลี่ยนภาษาให้ด้วย เดี๋ยว ! ไม่มีโว้ยยย ต้องสุ่มเอง
แนะนำนิดนึงสำหรับคนที่ไม่รู้จริง ๆ ให้สังเกตดูคำว่า นิคุ 肉 (เนื้อ) หรือ บูตะ 豚 (หมู)
ราคาเป็นเซ็ตก็ราว ๆ 500 เยน ขึ้นไป สะดวกสุดคือให้คนข้าง ๆ สั่งให้ ฮ่า ๆ
พอสั่งแล้วจะได้กระดาษเล็ก ๆ มา เอาไปยื่นกับพนักงานที่หน้าร้าน แล้วก็บอกเขาว่าจะนั่งตรงไหน
บริเวณนี้สามารถนั่งได้ทุกที่ มีจุดแนะนำคือด้านนอกริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก
ได้กินข้าวท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมเสียงน้ำไหล โว้ะ! สุนทรีย์เวอร์ !!!
【Coffee / Meals Corner】
(Open) 9: 00 ~ 16: 00
(December ~ March 15 : 00 )
【Souvenirs Corner】
(Open) 9: 00 ~ 17: 00
(December ~ 16: 00 )
(closed) December ~ March every Wednesday
กินข้าวอิ่มแล้วหนังตาก็หย่อน เดินหาที่นอนกันเถอะ
ตามแม่น้ำไปจะเจอกับชุมชนเล็ก ๆ พอเดินเข้าไปก็ว้าวมาก
บ้านแต่ละหลังดูเก่าแก่ ฉากหลังเป็นป่าสน ทางเดินลัดเลาะเป็นขั้นบันได
พื้นตามทางเดินปกคลุมไปด้วยมอสดูชุ่มชื่นสุด ๆ
ไม่ใช่มอสแบบบ้านเรานะ แต่เป็นมอสใบหนา ๆ นุ่มมือมาก ๆ
ด้วยความที่ขี้เสือก อยากรู้อยากเห็นก็เดินตามซอกซอยเข้าไปในป่า
พบที่เก็บน้ำเป็นลำธาร น้ำตรงนี้ไหลมาจากบนภูเขาและออกสู่แม่น้ำสายหลักตรงที่เราเดินผ่านมา
อยากบอกว่า น้ำเย็นโคตร.....แต่ป่าสนบริเวณนี้ต้นใหญ่ ชุ่มฉ่ำ อากาศดีมาก สูดให้เต็มปอดไปเลย
พอเดินออกมาตรงถนนเส้นหลัก จะเจอกับแม่น้ำ
ตรงนี้สามารถเดินลงไปเล่นน้ำได้ จริง ๆ คงไม่ได้หรอก แต่ฤดูนี้น้ำน้อย
ลงไปเดินบนหินได้สบาย ทางลงอยู่ตรง.....เออ ทางลงอยู่ตรงไหนวะ ฮ่า ๆ
ต้องเดินหาดี ๆ จะเจอบันไดเล็ก ๆ พอเดินลงไปก็เอาเลยจ้า กระโดดไปตามก้อนหิน สนุกจังเลย
น้ำตรงนี้เป็นน้ำแร่จากธรรมชาติไหลมาจากภูเขาตรงนู้นนนน
ระดับความใสของน้ำเรียกว่าเห็นพื้นดิน ถ้ามองไกล ๆ ก็จะเป็นสีฟ้าเขียวมรกต
ส่วนระดับความเย็นของน้ำถึงกับเท้าชา เหมือนจุ่มเท้าลงในน้ำแข็ง
ถ่ายภาพสวย ๆ ได้ แต่ไม่แนะนำให้อยู่นาน เพราะเมื่อเริ่มค่ำ ระดับน้ำจะสูงขึ้น
ก้อนหินที่เราใช้เดินจะจมลง และน้ำก็แรงพอที่จะพัดเรา ไม่จมน้ำตายหรอก แต่หนาวตายแน่นอน
ว่าแล้วก็กลับที่พักกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว
กลับมาถึงที่พัก พนักงานก็เอากระเป๋าเราไปเก็บที่ห้องเรียบร้อย
เข้าไปก็จะเจอกับชุดยูกาตะและอุปกรณ์อาบน้ำเตรียมไว้ให้
ที่สำคัญมีขนมและชาสำหรับชงดื่มตอนที่แช่ออนเซ็นเสร็จ อร่อยมากเวอร์
พอเปลี่ยนชุดให้เข้ากับชาวบ้านเขาแล้วเราก็เดินมารอที่หน้าห้องอาหาร
ไม่นานพนักงานก็มาเชิญเข้าไปนั่ง ด้านในตกแต่งแบบโรงแรม มีอาหารหลากหลายให้ตักได้เอง
ลองดูว่ามีอะไรน่ากินบ้าง เอาให้อิ่มถึงเช้าเลย ลุย!!! ทำยังกะมาร้านบุฟเฟ่หมูกระทะ ฮ่า ๆๆ
ส่วนใหญ่เป็นอาหารญี่ปุ่น ก็เออดิ นี่ญี่ปุ่น ความพิเศษของมันก็คือจะมีพวกอาหารท้องถิ่นด้วย
เช่น ปลาที่มีเฉพาะฤดูนี้ หรือจะเป็นพวกของหวานต่าง ๆ ที่ทำจากผลไม้ มีความละมุน นุ่มลิ้นมาก อธิบายไม่ถูกรู้แต่ว่าอร่อย
ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว
Ryujin Onsen Sightseeing Accommodation Information Center
TEL: 0739-79-0339
Opening Hours: 9 AM - 6 PM
พิกัด : https://goo.gl/maps/HNT97pswZ812
พอกินเสร็จก็นอนดูทีวีย่อยสักพัก ราว ๆ สามทุ่มก็เตรียมตัวไปแช่น้ำ
บ่อที่นี่ปิดราว ๆ สี่ทุ่มก็เลยคิดว่าไปดึก ๆ คนจะได้ไม่มี ไม่ต้องอาย
คือผมไม่เคยแช่ออนเซ็นมาก่อน ก็หาข้อมูลมาบ้างนะ
แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ยังรู้สึกอายที่จะแก้ผ้าต่อหน้าประชาชีใครก็ไม่รู้
ว่าแล้วก็หอบผ้า มุ่งหน้าสู่บ่อน้ำแร่ ไปพิสูจน์ความเป็นชายกันดีกว่า
เข้าไปด้านในจะแบ่งโซนชายหญิงชัดเจน จะทำทีว่าฉันเข้าห้องผิดก็ไม่ได้นะ หึหึ อย่าแม้แต่จะคิด
พอไปถึงก็ไม่มีคนเลย ดีใจจังโว้ย จะได้แช่แบบส่วนตัว
ถอดผ้าทั้งหมดใส่ไว้ในล็อคเกอร์ หยิบมาแค่อุปกรณ์อาบน้ำแล้วก็ผ้าขนหนูสำหรับปิดช้างน้อย
อย่าลืม ! ก่อนลงแช่ต้องอาบน้ำขัดตัวให้สะอาดก่อน
ข้างบ่อจะมีที่นั่งสำหรับอาบน้ำ เปิดได้ทั้งน้ำร้อนและเย็นเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย
พอเนื้อตัวสะอาดก็ได้เวลาลงบ่อ วิธีที่ถูกต้องก็คือ
ค่อย ๆ ยื่นปลายเท้าลงไปแช่น้ำก่อนสักพัก แล้วก็หย่อนตัวลงช้า ๆ จนระดับน้ำขึ้นมาถึงหน้าอก
เชี่ยมาก!! น้ำโคตรร้อน แค่ระดับน้ำสัมผัสกับน้องช้างก็ต้องรีบลุกขึ้น สัสเอ้ยยย เกือบได้กินไข่ต้ม
ต้องกลับไปตั้งหลักที่ฝักบัว เอาน้ำเย็น ๆ ราดบรรเทาอาการแสบ
เอาวะ....ลองอีกที คราวนี้ร่างกายปรับตัวได้แล้ว ลงไปแช่ได้
เห้ย ! พอเราอยู่นิ่ง ๆ สักพักความร้อนเริ่มเบาลง ร่างกายอุ่นขึ้น
สบายจังเลยยยยยย ผมพิงตัวไปกับขอบอ่าง
ปล่อยให้แรงดันน้ำพวยพุ่งสู่เรือนร่าง รู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มของน้ำแร่
มันซาบซ่านไปทั่วผิว จนต้องครางออกมาเบา ๆ.... อ่า.......ฟินแท้.......
คำเตือน ! อย่าแช่น้ำนานเกิน 8 นาทีเพราะร่างกายจะร้อนเกินไปทำให้ป่วยได้
พอแช่ไปสักพัก กลุ่มชาวนิฮงจินก็มาจากไหนไม่รู้เยอะแยะ
มีทั้งวัยหนุ่ม คุณลุง คุณอา คุณตา มาร่วมลงบ่อกับผม ทำไมมากันตอนดึกหะ !
พอแช่รวมกันเยอะ ๆ แบบนี้ ยางอายของผมก็ค่อย ๆ ละลายไปกับน้ำ
เติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวเรียบร้อย ฮ่า ๆ
แช่เสร็จออกมาจะเจอกับห้องอบซาวน่าให้ได้หลอมขี้ไคล แต่แค่นี้ก็ร้อนพอแล้ว เลยไม่ได้เข้า
ด้านนอกมีอุปกรณ์แต่งตัว จะเป่าผม เสริมหล่อ มีครีมทาผิวให้ครบ
เพิ่งสังเกตว่ามีป้ายแนะนำในการแช่น้ำ เออ..ทำไมพึ่งมาเห็น ฮ่า
ยังไม่จบคอร์สนะ ก่อนเข้ามาบ่อจะมีพวกเบียร์หรือน้ำหวานบริการ
มีเครื่องนวดไฟฟ้าให้ด้วย ผมนี่นวดเพลินมาก เล่นมันทุกโหมดเลย
วันนี้เป็นวันที่สบายตัวที่สุดแล้วตลอดทริปญี่ปุ่นที่ผ่านมา
รู้สึกได้ว่าผิวมันนุ่มขึ้น ไม่รู้มโนไปเองรึเปล่า แต่ตอนที่แช่น้ำผิวจะขาวและลื่น
เหมือนมีอะไรมาเคลือบไว้ พอล้างตัวแล้วก็ดูเปล่งปลั่งขึ้นจริง ๆ นะ
เข้าใจแล้วว่าทำไมคนญี่ปุ่นชอบแช่ออนเซ็นกันนัก
ทำงานเหนื่อย ๆ แล้วแช่น้ำร้อนมันสบายตัวสุด ๆ
วันนี้เต็มที่แล้ว พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางไปโคยะซัง
ใบไม้จะเปลี่ยนสีรึยังนะ ต้องไปลุ้นกันอีกที
แต่ที่แน่ ๆ พรุ่งนี้ต้องตื่นให้ทันรอบรถที่เช้าที่สุด
สำหรับคืนนี้ โอยะสุมินาไซ........ฝันดีครับ