เพื่อน ๆ อาจจะเคยไปเที่ยววัดในไทยที่การจำลองโลกสวรรค์ – นรก กันมาบ้างแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า ญี่ปุ่นเขาก็มีอะไรประมาณนี้อยู่แล้วเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้จำลองออกมาอย่างชัดเจน จะออกไปในลักษณะของเส้นทาง สถานที่ประทับของเทพ หรือจุดเชื่อมโยงเชื่อมต่อของภพนั้นที่เปรียบว่าเป็นสวรรค์-นรก สำหรับคนญี่ปุ่นแล้วสถานที่จำพวกนี้จะเหมือนเป็นสถานที่ใช้ชาร์จพลัง ดังนั้นในช่วงปีใหม่ก็จะมีผู้คนจำนวนมากแวะเวียนเข้าไป สำหรับคนญี่ปุ่นเองก็มองว่าแปลกใหม่ ดังนั้นในตอนนี้เราจะมาไปเปิดประสบการณ์ใหม่กัน เริ่มกันที่
1. ศาลเจ้านัมบะยาซากะ : Namba Yasaka Jinja (難波八阪神社)
ศาลเจ้าเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านท่องเที่ยวชื่อดังอย่างนัมบะ หรือแถวป้ายกูลิโกะที่มีชื่อเสียง เอกลักษณ์ของศาลเจ้าแห่งนี้คือหัวสิงโตขนาดใหญ่ทางด้านหน้าศาลเจ้า สูง 12 เมตร มีปากเป็นเวทีและจมูกเป็นลำโพง โดยมีความเชื่อว่าปากของสิงโตจะกินสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ปัดเป่าความชั่วร้าย และนำโชคลาภเข้ามาให้ ถ้ามาขอพรเรื่องการเรียน การงานก็จะประสบความสำเร็จตามหวัง
โอมาโมริรูปหัวสิงโต 500 เยน ช่วยเรื่องโชคดี ขจัดสิ่งชั่วร้าย และยังมีเครื่องรางความรัก 300 เยน ที่นิยมในหมู่สาว ๆ
ศาลเจ้าแห่งนี้เคยเฟื่องฟูมากในยุคก่อนสงคราม หลังสงครามความศรัทธาก็ลดลง และศาสนากับลัทธิเริ่มถูกแยกออกจากกัน หัวสิงโตขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์การบูรณะหลังสงคราม และศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีเรื่องเล่า ในสมัยก่อนเทพและมนุษย์ได้เกิดภัยพิบัติใหญ่ขึ้นจากจอมอสูรโอโรจิ (Yamata no Orochi : 八岐の大蛇) เมื่อกำราบจอมอสูรลงได้ หน้ากากต่าง ๆ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ในความหมายที่ต่างกัน 1 ในนั้นคือ ชิชิไม (Shishimai : 獅子頭) หน้ากากสิงโตที่เป็นตัวแทนแห่งความบริสุทธิ์ ขจัดวิญญาณชั่วร้าย
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : ทุกวัน 06:00 – 17:00 น.
ที่อยู่ : 2 Chome-9-19 Motomachi, Naniwa Ward, Osaka
การเดินทาง : จากสถานี Namba เดินต่อประมาณ 8 นาที
2. วันเซนโคจิ : Senko-ji (全興寺)
ศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี อีกแห่งในโอซาก้าอยู่กลืนไปกับย่านการค้า เมื่อเข้ามาถึงจะมีป้ายแนะนำให้ไปขอพรที่อุโบสถหลักก่อน แล้วจึงเดินตามทางระหว่างทางจะมีป้ายปีศาจชี้ทางไปยังขุมนรก เมื่อเดินตามทางมาถึงปากทางเข้าจะมีแบบทดสอบ เพื่อเลือกว่าคุณจะได้ไปสวรรค์หรือนรก โดยวัดจากคะแนนด้านบวกลบในจิตใจ แน่นอนว่า ถ้าได้ 0 หรือ ติดลบ นั่นคือตกนรก
เมื่อตกนรก ก็เดินเข้าสู่ทางนรกได้เลย ภายในจะมีราชาเอ็นมะ ที่เป็นผู้พิพากษาหลังความตายอยู่ด้านหน้า โดยมีปีศาจบริวารอยู่รอบ ๆ และด้านหน้าของราชาเอ็นมะจะมีระฆังกับกระจกโจฮาริ (Jouhari no Kagami : 淨玻璃の鏡) ที่จะใช้ตัดสินผู้วายชนม์ว่าควรไปที่ใด ควรลงโทษสถานใด ถ้าโกหกก็คือตัดลิ้น ภาพที่แสดงออกมาจะเป็นการเตือนสติ เตือนใจกับผู้มาเยือนให้เข้าใจโลกหลังความตายมากขึ้น
แต่ถ้าขึ้นสวรรค์ บรรยากาศรอบด้านจะเต็มไปด้วยพระพุทธรูป กระจก ที่ถ้าได้ลองไปนั่งจะสัมผัสได้ถึงความสงบ ได้ยินเสียงน้ำไหล และสะท้อนความสงบของธรรมชาติโดยรอบ
สถานที่แห่งนี้จะช่วยสะท้อน และเตือนสติ เตือนใจ โลกหลังความตาย ความตายอาจไม่ใช่สิ่งน่ากลัวที่สุด แต่ความน่ากลัวหลังความตายนั้นต่างหากคือเรื่องจริงจากสิ่งที่คุณกระทำไว้ ดังนั้นที่นี่จะเป็นที่ ๆ จะทำให้คุณเริ่มคิดถึงคุณค่าของชีวิตคุณ รวมถึงชีวิตเขา ที่นี่ยังมีชื่อเรื่องเครื่องรางที่ช่วยเรื่องสุขภาพ ขจัดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ป้องกันสิ่งไม่ดีอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาทำการ : ทุกวัน 9:00 – 17:00 น.
ที่อยู่ : 4 Chome-12-21 Hirano Honmachi, Hirano Ward, Osaka
การเดินทาง : จากสถานี Honen Hirano เดินต่อประมาณ 12 นาที
3. ศาลเจ้าอิวาฟูเนะ : Iwafune Jinja (磐船神社)
ศาลเจ้าที่สักการะหินขนาดใหญ่ สูง 12 เมตร มีลักษณะคล้ายหัวเรือ (Ama no Iwafune : 天の磐船) โดยมีเรื่องเล่าว่าเป็นเรือหินสวรรค์ของนิกิฮายากิ โนะ มิโกโตะ (Nigihayahi no mikoto) ที่สืบเชื้อสายมาจากสวรรค์ ใช้พาภรรยา และน้องสาวมายังโลกมนุษย์ ในสมัยการสร้างปราสาทโอซาก้า ได้มีการหาหินขนาดใหญ่มาสร้างฐาน รวมถึงกำแพง แต่ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นหินที่มีขนาดใหญ่ก้อนอื่น ๆ สามารถขนกลับไปได้ เว้นแต่หินก้อนนี้ที่ไม่ว่าจะทำยังไง ก็ไม่สามารถขนไปได้ จึงเชื่อว่าเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ และสามารถสัมผัสได้ถึงพลังบริสุทธิ์ที่ไหลออกมาจากหินได้
หลังจากสักการะเสร็จ สามารถมาผจญภัยในถ้ำหินที่ทะลุเชื่อมต่อถึงกันได้ ตลอดทางจะมีลูกศรชี้บอกทางไปตลอด โดยเชื่อว่าผู้ที่สามารถผ่านทางที่คับแคบอันมืดมิดไปได้จะเจอกับแสงสว่าง และพรจะสำเร็จลุล่วงไปได้ ที่นี่โด่งดังในเรื่องสุขภาพ ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เดินทางปลอดภัย ความเจริญรุ่งเรือง ถ้ามาก็อย่าลืมที่จะขอพรกันกลับไปกันนะ
ค่าเข้าชม : 500 เยน
เวลาทำการ : ทุกวัน 09:00 – 15:00 น.
ที่อยู่ : 9 Chome-19-1 Kisaichi, Katano, Osaka
การเดินทาง : จากสถานี Kisaichi ต่อรถบัส แล้วเดินต่ออีก 10 นาที
4. วัดคัตสึโอจิ : Katsuo-ji (勝尾寺)
วัดคัตสึโอจิ หรือวัดแห่งชัยชนะ ถูกค้นพบในช่วงปลายยุคนารา ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องโชคลาภ ผู้คนจึงนิยมมาอธิษฐานขอพรกันไม่ขาดสาย ไม่เพียงแค่มาขอเรื่องโชคลาภ แต่ทัศนียภาพของที่นี่ยังสวยราวกับอยู่บนสวรรค์ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ สีชมพูของดอกซากุระ และช่วงฤดูใบไม้ร่วง วิวภูเขาสีเขียวที่อยู่ด้านหลัง ตัดกับใบสีแดง สีเหลือง ได้อย่างลงตัว
อีกภาพที่จะทำให้ผู้มาเยือนต้องประหลาดใจคือ กองตุ๊กตาดารุมะที่ถูกวางจนล้น หลังคำขอประสบความสำเร็จ ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น โดยสมัยก่อนจะสามารถเขียนขอพรได้ที่ใต้คางของตุ๊กตาดารุมะ ตามด้วยวาดตาข้างหนึ่งด้วยหมึกสีดำ แต่ปัจจุบันแต่ละวัดจะมีคำที่เป็นหัวข้อของคำอธิษฐานติดไว้อยู่แล้ว สามารถวาดตาข้างหนึ่ง แล้วทำการขอพรที่เกี่ยวข้องได้เลย หลังจากนั้นเก็บตุ๊กตาไว้ เมื่อพรสำเร็จให้เติมตาอีกข้างให้สมบูรณ์ และนำมาถวายสักการะในวัด โดยส่วนใหญ่ผู้คนมักจะมาเรื่องของชัยชนะกับตุ๊กตาดารุมะของที่นี่
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่าบ่อน้ำพุกลางวัด คือสถานที่ที่เทพเบนเทนโด (เบ็นไซเต็ง) เทพีแห่งกวี ดนตรี 1 ในเทพแห่งโชคลาภทั้ง 7 ประทับอยู่ ทำให้สายน้ำและบรรยากาศของที่นี่บริสุทธิ์และเย็นสบายตลอด
ค่าเข้าชม : 400 เยน
เวลาทำการ : ทุกวัน 8:00 – 17:00 น.
ที่อยู่ : 2914-1 Aomatani, Minoo, Osaka
การเดินทาง : ลงสถานี Mino ต่อบัส หรือ แท็กซี่ ประมาณ 20 นาที
แหล่งที่มาเรื่องและภาพ : jalan