“Edo-Tokyo open air architectural museum” ย้อนรอยสู่อดีตในสถานที่ประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมแห่งยุคเอโดะ

ใครกำลังหาแหล่งท่องเที่ยวดี ๆ ในโตเกียวสำหรับพักผ่อนในวันหยุดอยู่บ้างคะ วันนี้ Haruna_SP มีพิพิธภัณฑ์ดี ๆ มานำเสนอค่ะ แต่หากใครกำลังคิดถึงพิพิธภัณฑ์ในอาคารที่เราจะต้องเดินศึกษาสิ่งของที่อยู่ในตู้กระจกแล้วล่ะก็ ขอให้ลืมภาพนั้นไปก่อนค่ะ เพราะที่ที่เราจะพามาวันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมที่นำเอาตึกรามบ้านช่อง ร้านค้า อาคารสำคัญ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ที่เคยมีอยู่จริงในยุคสมัยเอโดะของโตเกียวมาจัดแสดงรวมกันอยู่ที่นี่ Edo-Tokyo open air architectural museum (江戸東京たてもの園)

จากสถานีรถไฟ Higashi-koganei (東小金井駅) ต่อรถบัสอีกนิด ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าชมของผู้ใหญ่อยู่ที่ราคา 400 เยนเท่านั้นเอง เมื่อเข้ามาได้แล้วพนักงานก็จะให้แผนที่กับเรา เมื่อดูตามแผนที่ก็จะเห็นว่าภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน คือโซนกลาง (Center) โซนตะวันตก (West) และโซนตะวันออก (East) แค่เห็นจากแผนที่ก็รู้แล้วว่าที่นี่กว้างมากจนไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี แต่ที่แน่ ๆ ยังไงก็ต้องเดินให้ครบให้ได้

อย่างที่บอกไปแล้วว่าความพิเศษของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ อาคารทุกอาคารของที่นี่เคยมีอยู่จริงในอดีต ไม่ว่าจะเป็นอาคารเก่าแก่จริง ๆ ที่เป็นของเดิมแต่ถูกย้ายมาตั้งเอาไว้ที่นี่ หรือจะเป็นอาคารที่สร้างขึ้นใหม่โดยอิงจากของเก่า เนื่องจากของเดิมนั้นเสียหายเพราะไฟไหม้ไป เวลาที่เราเดินชมแต่ละตึกจึงจะได้เห็นชื่อของอาคารนั้น หากเป็นบ้านพักอาศัยก็จะมีชื่อของเจ้าของติดอยู่ด้วย ทุกหลังล้วนมีประวัติกันทั้งนั้น และทางพิพิธภัณฑ์เองก็ทำคำอธิบายทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษไว้ให้แล้ว

ก่อนอื่นขอเริ่มจากที่โซนตะวันออกก่อนเลยก็แล้วกัน โซนนี้จะเต็มไปด้วยแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาถ่ายรูป เพราะได้จำลองเป็นเหมือนเมืองในยุคสมัยเอโดะจริง ๆ จุดนี้มีลักษณะเป็นทางเดินยาวขนาบข้างด้วยร้านค้า โรงแรม และร้านอาหาร ก่อนจะไปบรรจบที่อาคารที่ใหญ่ที่สุดซึ่งตั้งอยู่ตรงกลาง อันเป็นที่ตั้งของที่อาบน้ำสาธารณะ ร้านกินดื่ม และร้านตัดเสื้อ

อาคารในโซนนี้ที่เราชอบก็อย่างเช่น ร้านเครื่องสำอาง Murakami Seikado แน่นอนว่าอาจเป็นเพราะเราเองก็ชื่นชอบในเครื่องสำอางอยู่แล้ว ยิ่งได้มาเห็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ผลิตเครื่องสำอางในร้านของสมัยก่อนแล้วยิ่งรู้สึกว้าว หรือจะเป็นร้านทำร่ม Kawano Shoten ที่ผลิตร่มญี่ปุ่นทำจากกระดาษ แบบที่เรามักจะเคยเห็นกันตามรูปถ่ายต่าง ๆ

และในโซนนี้ที่พลาดไม่ได้เลยคือ โรงอาบน้ำสาธารณะ Kodakara-yu แม้ว่าในปัจจุบันโรงอาบน้ำแบบนี้จะยังคงหลงเหลืออยู่ แต่โรงที่เก่าแก่แบบนี้หาไม่ได้จากที่ไหนแล้วนอกจากที่นี่ อ้อ ! และที่พลาดไม่ได้สำหรับโซนนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือเจ้ารถไฟสีเหลืองที่ถ่ายรูปขึ้นสุด ๆ

ถัดมาที่โซนกลางกันบ้าง นอกจากตรงนี้จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแล้วยังจัดแสดงบ้านเรือนของผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ ด้วย อย่างเช่นโรงน้ำชา Kaisuian ดูเหมือนว่าสมัยก่อนจะเอาไว้สำหรับดื่มชาท่ามกลางสวนญี่ปุ่นที่ยังคงจัดเอาไว้ให้เห็นอยู่ แน่นอนว่าถึงขนาดสร้างโรงน้ำชาเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ได้ เจ้าของจะต้องเป็นผู้มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน

มาต่อกันที่โซนสุดท้ายอย่างฝั่งตะวันตก โซนนี้ก็จะออกแนวตะวันตกสมชื่อ เพราะดูเหมือนว่าอาคารในโซนนี้จะใหม่กว่าอีกสองโซน และเริ่มได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตกแล้วด้วย อาคารก็จะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านดอกไม้ บ้านเรือนของขุนนางชั้นสูงสมัยก่อน

อาคารที่เราชอบที่สุดก็ต้องนี่เลย Tokiwadai Photo Studio โรงถ่ายภาพสมัยก่อน ตัวตึกสีขาวออกแบบตามแบบตะวันตก ดู ๆ ไปถือว่าเป็นร้านถ่ายภาพที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน ด้านในที่ชั้นสองมีโซนถ่ายภาพของจริงจัดแสดงไว้อยู่ เห็นแล้วนึกถึงละครย้อนยุคที่ต้องใส่ชุดกิโมโนมาถ่ายรูปกันเลย

สำหรับใครที่เหนื่อยแนะนำให้เข้ามาที่บ้านของ Georg de Lalande เพราะด้านในมีคาเฟ่สไตล์วินเทจอยู่ด้วย เปิดระหว่าง 10:30-17:00 น. ด้านในตกแต่งอย่างสวยงาม ให้อารมณ์ย้อนยุคเข้าไปในบ้านชาวฝรั่งยุคเก่า นอกจากโซนคาเฟ่เราก็ยังสามารถเดินชมส่วนของพิพิธภัณฑ์ได้ พวกเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ยังมีจัดวางเอาไว้อยู่

จริง ๆ แล้วยังมีอาคารอีกหลายหลังที่เรายังไม่ได้เอามาเล่าให้ฟัง เพราะมีเยอะมากจนจะให้เล่ายังไงก็ยังเล่าไม่หมด โซนแต่ละโซน อาคารแต่ละหลัง เมื่อเดินเข้าไปแล้วทำให้เห็นภาพวิถีชิวิตของชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนได้อย่างชัดเจน ยิ่งใครเคยดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นย้อนยุคมาบ้างแล้ว หากได้มาที่นี่ก็จะรู้สึกฟินและอินมาก ๆ (อย่างเช่นเราเป็นต้น) ค่าเข้าชมแค่ราคา 400 เยน สามารถดูและเที่ยวได้มากถึงขนาดนี้ เราถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ หากใครจะมาในช่วงวันหยุดพักผ่อนแบบสบาย ๆ