ห้ามพลาด! 3 ร้านแพนเค้กเด็ด ที่ฮาราจูกุและโอโมเตะซันโด

ที่ญี่ปุ่น ตอนนี้ร้านแพนเค้กแนวนุ่มๆ ดึ๊งๆ นี่กำลังฮิตมากเลยค่ะ ครั้งก่อนก็ได้เคยแนะนำร้านเด็ดๆ ไปแล้ว ครั้งนี้มีมาอีก 3 ร้าน ที่แค่เห็นรูปก็ยั่วน้ำลายสุดๆ เลยค่ะ แถมร้านอยู่ย่านฮาราจูกุ กับ โอโมเตะซันโด เดินทางง่ายสะดวกสุดๆ ไปเริ่มกันเลย!

1.ร้าน Rainbow Pancake - รู้จักกันในนาม ร้านแพนเค้กแห่งฮาราจูกุ

ร้านแพนเค้กชื่อดังที่ย่านฮาราจูกุ ไม่มีใครไม่รู้จักร้าน Rainbow Pancake เพราะแพนเค้กที่นี่ทั้งหนานุ่ม หอมกรุ่น ขนาดบางคนบอกว่านุ่มเหมือนปุยนุ่นเลยทีเดียว ซึ่งแพนเค้กขึ้นชื่อของที่นี่คือ แพนเค้กราดซอสแมคคาเดเมีย ที่ได้รสชาติของแมคคาเดเมียเต็มๆ แบบไม่หวานมาก และหน้าตาที่ดูเป็นครีมเข้มข้น ข้อเสียของร้านนี้คือ รอคิวนานค่ะ ถ้าจะมากินเป็นหมู่คณะสามารถโทรจองได้ค่ะ

Rainbow Pancake
レインボーパンケーキ
ที่อยู่ : ARES GARDEN OMOTESANDO 2F, 4-28-4 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo-to 150-0001

เข้าไปดูรีวิวเรียลๆ กันต่อได้ที่ Rainbow Pancake รสชาติแพนเค้กญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นในย่าน Omotesando

2.ร้าน Micasadeco & Café - หอคอยแพนเค้ก เสิร์ฟพร้อมริคอตต้า

ร้านแพนเค้กนี้ดังมาจากที่โอซาก้าค่ะ และตอนนี้ก็มาดังที่ฮาราจูกุ ซึ่งแพนเค้กร้านนี้มีหลากหลายความนุ่มให้เราเลือก แล้วแต่เมนูที่เราสั่งค่ะ โดยเมนูแนะนำก็คือ "Fluffy Ricotta Pancakes" ซึ่งเสิร์ฟแพนเค้กมาเป็นชั้นเหมือนหอคอย พร้อมริคอตต้าที่กินแล้วรสชาติเข้ากันสุดๆ เลยค่ะ นอกจากนี้แล้วที่ร้านยังมีเมนูอื่นๆ นอกจากแพนเค้กอีกด้วย คือมาร้านเดียวจบคาวหวานเลยค่ะ

 

Micasadeco & Café
MICASADECO&café 神宮前
ที่อยู่ : HOLON3 3F, 6-16-5 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo-to 150-0001

 

3.ร้าน Riz Labo Kitchen - ผสมผสานระหว่างแพนเค้กกับความเป็นญี่ปุ่น

ร้านแพนเค้กเปิดใหม่ที่ครองใจใครหลายคนไปเรียบร้อยค่ะ ในย่านโอโมเตะซันโด แพนเค้กร้านนี้มีจุดเด่นไม่เหมือนใครตรงที่ ใช้ส่วนผสมเป็นแป้งข้าวเจ้า 100 เปอร์เซนต์ค่ะ ไม่ใช่แป้งสาลีแบบทั่วไป และภายในร้านยังตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ทำให้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนญี่ปุ่นเลยค่ะ ดังนั้นจะให้ได้ความรู้สึกญี่ปุ่นแบบเต็มๆ เราเลยขอแนะนำเมนู "มัชชะแพนเค้ก" โดยเสิร์ฟพร้อมถั่วแดงญี่ปุ่น และครีมสดจากฮอกไกโด โรยด้วยผงมัชชะ

 

Riz Labo Kitchen
Riz Labo Kitchen
ที่อยู่ : Omotesando Garden 1F, 4-15-2 Jingumae, Shibuya-ku, Tokyo-to 150-0001

 

แหล่งที่มา : https://livejapan.com/en/in-harajuku/article-a0001511/

FOLLOW US ON
FACEBOOK