ในสมัยโบราณ ชาวญี่ปุ่น เชื่อกันว่า ช่วงฤดูร้อน (เดือน มิถุนายน – สิงหาคม ) นั้นเป็น ธาตุไฟ สัญลักษณ์คือ ปีมะแม ( แพะ ) จึงนิยมทานเนื้อ วัว ที่เป็นตัวแทนของธาตุน้ำ ตามปีนักษัตรในปฎิทินแบบโบราณ เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย ต่อมา… ในสมัยเอโดะ เจ้าของร้านข้าวหน้าปลาไหลชาวญี่ปุ่น คนหนึ่ง ได้เขียนป้าย ติดประกาศหน้าร้านว่า “ วันนี้เป็นวัน อุชิโนะฮิ (丑の日) เรามากิน อุนางิ (ปลาไหล) กันเถอะ ” ซึ่งคำว่า อุนางิ (うなぎ) หรือ ที่แปลว่าปลาไหลนั้น ออกเสียงด้วยคำว่า อุ (う) ซึ่งพ้องกับ อุชิ (うし ) ที่แปลว่า วัว นับแต่นั้นมา ชาวญี่ปุ่น ก็เลยนิยมทาน “ปลาไหล” กันในหน้าร้อน และเป็นที่นิยมเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน
Hello Summer !!! ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงฤดูร้อนพอดี วอมเลยถือโอกาสพาทุกคนไปชิมข้าวหน้าปลาไหล (เมนูยอดฮิตในช่วงหน้าร้อนของคนญี่ปุ่น) ที่ร้านข้าวหน้าปลาไหลเฉพาะทางอย่าง Kensaku ฮั่นแน่ะ! งงล่ะสิ ว่า ปลาไหลเฉพาะทางคืออะไร? ในเมื่อเมนูข้าวหน้าปลาไหลก็มีขายในร้านอาหารญี่ปุ่นแทบทุกร้าน ทำไมวอมจะต้องพาไปดูอีก มันน่าเบื่อเข้าใจมั๊ย!! ( อ่ะๆ…ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งโวยวาย เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังนะ )
คุณอ๊อฟและเชฟนิวเจ้าของร้านเล่าให้เราฟังว่า ร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย ส่วนใหญ่มักจะใช้ปลาไหลสำเร็จรูป!! คือแบบว่า ฉีกซองแล้วนำมาย่างให้เรากิน ( คุณพระ!!...ตายแล๊ววว) ส่วนร้านข้าวหน้าปลาไหลเฉพาะทางนั้น คือร้านที่นำเข้าปลาไหลทั้งตัวจากญี่ปุ่นมาแล่กันสดๆในร้านโดยเชฟผู้มีความชำนาญ รวมถึงวิธีการย่างสไตล์คันโต เริ่มตั้งแต่ที่ใช้วิธีผ่าจากทางหลังของปลา(ไม่ผ่าท้อง) แล้วนำไปเสียบไม้จุ่มซอสให้ชุ่มก่อนย่าง นำไปนึ่งเพื่อให้ความชุ่มฉ่ำของเนื้อปลายังอยู่ และย่างอีกครั้ง ทำซ้ำไปซ้ำมา จนหนังเริ่มกรอบและส่งกลิ่นหอม กลายเป็นคาราเมลเคลือบชิ้นปลา แล้วจึงยกมาเสิร์ฟ ( นี่แหละค่ะ ... ความเฉพาะทางที่พูดถึง )
เอาล่ะ รู้จักร้านข้าวหน้าปลาไหลเฉพาะทางกันไปพอสมควรแล้ว ตามวอมไปดูความพิเศษทั้งหมดในวันนี้ ที่ร้าน Kensaku กันดีกว่า แอบบอกนิดนึงว่างานนี้มีเซอร์ไพรส์
เปิดด้วยออเดิร์ฟเบาๆอย่าง ก้างปลาไหลทอด (150 บาท) เจ้าก้างปลาที่ใครๆก็กลัวว่ากินแล้วจะติดคอ แต่ร้านนี้นำมาทอดจนเหลืองกรอบ รสชาติกลมกล่อม เคี้ยวทีเสียงดังจนโต๊ะข้างๆต้องหันมามองเชียวล่ะ
มาต่อกันที่เมนูพระเอกของที่ร้าน นั่นก็คือเมนู ข้าวหน้าปลาไหลแบบฟาร์มเต็มตัว (2,500 บาท) นั่นเอง.. เราได้อธิบายความพิเศษของข้าวหน้าปลาไหลที่นี่ไปบ้างแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พิเศษไม่แพ้ปลาไหลสดๆและวิธีการย่างแบบญี่ปุ่นโบราณ คือซอสคาบายากิที่เคี่ยวมาตลอด 5 ปีตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน จึงมีทั้งกลิ่นและรสของปลาไหล ทำให้ซอสคาบายากิที่นี่เข้มข้นและกลมกล่อมสุดๆ เสิร์ฟมาเป็นเซ็ทพร้อมผักดองและคิมปิระโกโบ ที่ทางร้านทำเองทั้งหมด
ส่วนความรู้สึกของคำแรกที่เข้าปากน่ะหรอ? อร่อยยย…ตาวิ๊งๆเป็นประกายเลย อร่อยมากกก ทุกอย่างมันละมุนและส่งกลิ่นหอมอบอวนอยู่ในปาก ไม่เหมือนข้าวหน้าปลาไหลที่เคยกินมาตลอดทั้งชีวิต เชื่อว่าบุญทั้งหมดที่ได้สะสมมาน่าจะหมดไปกับอาหารจานนี้เรียบร้อยแล้ว
อีกหนึ่งเมนูที่เชฟนิวบอกเราว่าเป็นมนูไฮไลท์ นั่นคือเมนู ตับปลาไหลย่าง (450 บาท) นอกจากจะหากินยากมากๆ ยังทำยากมากๆอีกด้วย เพราะต้องเป็นเชฟจากร้านปลาไหลเฉพาะทางเท่านั้น ขั้นตอนการทำต้องพิถีพิถันและมือเบาแบบสุดๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาด เพราะถ้าดีแตกขึ้นมาละก็.. ล้างเขียงทำใหม่หมดเลยนะจ๊ะ ทางร้านเสิร์ฟคู่กับไข่แดงสดฟองโต พอทานคู่กันแล้วละมุนลิ้นจนอธิบายไม่ถูกเลยทีเดียว
เมนูต่อไปคือ ไข่ม้วนปลาไหล (450 บาท) แต่อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนต้นว่าที่นี่เขาใช้ทุกส่วนของปลาไหล เพราะฉะนั้นสิ่งที่เชฟสอดไส้ไว้ในไข่ม้วนจึงไม่ใช่เนื้อปลาไหลธรรมดา แต่คือส่วนคางของปลาไหลนั่นเอง ไข่ม้วนเนื้อเนียนๆกับคางปลาไหลย่างที่ชุ่มซอสคาบายากิ บอกได้เลยว่าอร่อยจนวางไม่ลง !! กินชิ้นเดียวไม่พอแน่นนอนค่ะ
แต่เหมือนแต้มบุญจะยังไม่หมด เพราะเชฟนิว เซอร์ไพรส์เราด้วยเมนูของหวาน ล้างปาก ที่เป็นไอเท็มลับของทางร้าน
ไดฟูกุถั่วแดงสตรอเบอรี่ (120 บาท) ซึ่งที่นี่ใช้แป้งนำเข้าจากญี่ปุ่นนวดกันสดๆ หลังร้านแบบวันต่อวัน ซึ่งในการนวดแต่ละครั้งจะทำไดฟูกุได้เพียง 15 ลูกต่อวันเท่านั้น!!!
OMG!!! สเปเชียลสุดๆ รู้แบบนี้แล้วรีบหยิบเข้าปากให้ไวเลยจ้า
สัมผัสแรกคือนุ่มหนึบกำลังดี แป้งไม่เหนียวติดเพดานปากให้หงุดหงิด ถั่วแดงกวนกับรสชาติหวานอมเปรี้ยวของสตรอเบอรี่สดๆ อร่อยจนเกือบลืมไปเลยว่ากำลังนั่งอยู่ในร้านข้าวหน้าปลาไหล ถ้าใครอยากมาชิมเมนูลับนี้ลองถามพนักงานก่อนนะคะเพราะเขาไม่ได้ทำทุกวัน และถึงทำก็หมดไวซะเหลือเกิน มีเงินอย่างเดียวก็ทานไม่ได้นะคะ เมนูนี้
หลังมื้อสุดพิเศษผ่านไป กำลังเก็บของเตรียมตัวออกจากร้าน คุณอ๊อฟ ก็เซอร์ไพรส์เราอีกครั้ง ด้วยการเรียกให้เราชิมเมนูที่ทางร้านไม่มีขาย แกงเห็ดเผาะใส่แม่เป้ง แม่เป้ง!! เกิดมาไม่เคยได้ยินเลย คืออะไรคะคุณอ๊อฟ??
คุณอ๊อฟก็ได้อธิบายให้เราฟังว่า แม่เป้งคือนางพญามดที่ชาวอีสานนิยมนำมาทำอาหาร เอาล่ะ เพื่อไม่ให้คุณอ๊อฟเสียน้ำใจ
ดิฉันจึงของสูดหายใจ หลับตา รวบรวมสมาธิ และความกล้า ลองชิมสักหน่อย
อุ๊ย!! รสชาติดีกว่าที่คิด แม่เป้งตัวอวบอ้วน รสสัมผัส มัน กรุบกรอบ อร่อยและนัวแบบแปลกๆ
สงสัยจะได้เมนูใหม่กลับไปหาวัตถุดิบ มาทำทานที่บ้านซะแล้ว....
วันนี้กลับบ้านแบบอิ่มพุง อิ่มใจ นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งความพิเศษของร้านนี้ ที่นอกจากปลาไหลสดๆ ไดฟูกุแสนอร่อย แม่เป้งตัวโตๆ อีกหนึ่งสิ่งที่ประทับใจคือ เจ้าของร้านที่น่ารักและเป็นกันเองทั้ง 2 คน ที่ช่วยให้บรรยากาศร้านนี้ดูอบอุ่นขึ้นเยอะเลย
“ เรามากิน อุนางิ ( ที่ Kensaku ) กันเถอะ “
Kensaku
พหลโยธิน ซอย 4 ( ใกล้ BTS อารีย์ ) เข้าซอยประมาณ 150 เมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ ตรงข้าม โรงเรียน ธำรงวิทย์
Open 11:00 - 14:00, 17:00 - 22:00
Make a reservation : 096-426-9878
https://www.facebook.com/kensakushop/