เค้กปุยเมฆละมุนลิ้น เมนูฮิตจาก Mandarin Oriental Hotel Tokyo

ร้านอาหารในโตเกียวนั้นมีทั้งแบบราคาถูกไปจนถึงภัตตาคารหรูราคาแพงหูฉี่ ซึ่งให้บริการอาหารรสชาติที่หลากหลายตามแต่ที่คุณต้องการ และที่โตเกียวก็มีอีกหนึ่งเมนูของหวานที่กำลังเป็นที่สนใจของชาวโตเกียวและผู้ที่ผ่านมาแถวนี้ ซึ่งเป็นเมนูเด็ดที่สามารถหามารับประทานได้เฉพาะที่โรงแรม  Mandarin Oriental Hotel Tokyo แห่งเดียวเท่านั้น

ที่ชั้นล่างจะเป็นร้านอาหารที่ขายทั้งของหวานและของคาวขึ้นชื่อของเมืองนี้

โดยอาหารในร้านจะถูกปรุงขึ้นโดยเชฟขนมหวานผู้เชี่ยวชาญและมีฝีมือดีสุด ๆ อย่างคุณ Stéphane Tranchet ซึ่งรังสรรค์ขนมหวานขึ้นชื่อที่มีชื่อเรียกว่า Kumo ซึ่งแปลว่าเมฆในภาษาญี่ปุ่น และแน่นอนว่ามันได้กลายเป็นขนมหวานชื่อดังที่ใครแวะผ่านไปมาต้องแวะมาชิม ทางร้านจะเปิดให้บริการตั้งแต่เช้า 7:30 น. ของวันธรรมดาก็มาทานกันได้แล้ว แต่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะเปิดสายหน่อยเป็น  9:00 น. โดยเมนูพิเศษอย่าง Kumo จะเริ่มขายตั้งแต่เวลา 10:30 น. เป็นต้นไป

คุณซาโต้ ผู้สื่อข่าวต้องการลองชิมเค้กก้อนเมฆตั้งแต่เขาได้ยินคำร่ำลือของเมนูขนมหวานนี้จากเพื่อนของเขา ทำให้เขามารอซื้อเค้กของโรงแรมตั้งแต่ 10:00 น. โดยหวังว่าตัวเองจะได้เป็นคนแรกที่มาต่อคิวเพื่อชิมเค้กชิ้นนี้

ในระหว่างที่คุณซาโต้มารอเค้กนั้นก็มีคนมายืนต่อคิวอยู่แล้วถึง 10 คน ซึ่งแต่ละคนสามารถซื้อเค้กได้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น เพราะเค้กของโรงแรม Mandarin Oriental นั้นผลิตออกมาจำนวนจำกัด ถ้าใครอยากจะทานจริง ๆ ต้องรีบมาก่อน 10 โมงเช้า ไม่งั้นอดกินแน่ ๆ

การมาต่อคิวนี่คุ้มค่ามากจริง ๆ แล้วเค้ก Kumo ก็มีหน้าตาน่าทานมาก ๆ ด้วย

เค้ก Kumo เนี่ย จะสั่งกลับบ้านหรือว่าจะนั่งทานที่ร้านก็ได้ แต่คุณซาโต้เลือกที่จะทานที่ร้าน เพราะอยากรู้ว่าเค้กชิ้นนี้อร่อยแค่ไหนจนอดใจแทบไม่ไหว แน่นอนว่าว่ามันดูดีเอามาก ๆ และนี่คือหน้าตาของเค้กก้อนเมฆก่อนที่จะถูกรับประทานเข้าไป

ตัวเค้กมีส่วนที่โค้งไปมาเหมือนเมฆจริง ๆ นอกจากนี้ยังมีความเบาและมีผงแป้งโรยอยู่ด้านบน ทำให้คุณซาโต้รู้สึกว่าเขาได้ลอยอยู่บนก้อนเมฆจริง ๆ เป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ

โดยตัวเค้กนั้นมีให้เลือกทานหลายรสชาติตามฤดูกาล อย่างเดือนพฤษภาคม เค้ก Kumo จะสอดไส้มะม่วงเอาไว้ด้านใน และจะมีซอสสีส้มแต้มเอาไว้ที่ปีกของผีเสื้ออีกด้วย

ถือได้ว่าเป็นของหวานที่สวยงามสุด ๆ ไปเลย แต่สุดท้ายคุณซาโต้ก็กินมันเข้าไปหมดในเวลาอันรวดเร็ว เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วใช้มีดหั่นเป็นเป็นชิ้น ๆ และนั่นก็ทำให้เขารู้ว่าเนื้อสัมผัสนั้นค่อนข้างจะแข็งกว่าเนื้อเค้กธรรมดาทั่วไป น่าจะเรียกว่าเป็นเวเฟอร์หรือเมอร์แรงค์มากกว่า โดยที่เนื้อสีขาวด้านนอกนั้นเป็นเหมือนเปลือกไข่ที่ห่อหุ้มไส้เอาไว้ พอเปิดออกมาก็พบว่าข้างในนั้นเป็นสีเหลืองทองส่องสว่างคล้ายกับลำแสงของพระอาทิตย์แบบนี้

ครีมสีส้มด้านในทำมาจากเนื้อมะม่วงจริง ๆ ส่วนด้านนอกนั้นทำมาจากไวท์ช็อกโกแลต กินเข้าไปคำแรก ทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ต่างกันก็พลุ่งพล่านอยู่เต็มปาก มันมีความมันของครีมและความเปรี้ยวอมหวานของมะม่วง แถมยังมีความกรุบกรอบของช็อกโกแลตที่สอดประสานกันเป็นอย่างดี ราวกับบทเพลงที่มีความไพเราะและความหมายหยั่งลึกซึ้งกินใจ

เนื้อสัมผัสและรสชาติดีสุด ๆ ขนาดนี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับเชฟขนมหวานเขาล่ะ ซึ่งคุณซาโต้เองก็รับรู้ได้ถึงความพรีเมียมจากวัตถุดิบชั้นดีที่ทางเชฟได้เลือกมาทำขนมหวานชิ้นนี้

ตัวเค้กมีความเบาและมีอากาศแทรกอยู่ภายใน ทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าได้กินก้อนเมฆเข้าไปจริง ๆ จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยความกรุบกรอบ ช่างเป็นของหวานที่วิเศษสุด ๆ จนกระเพาะอาหารของคุณซาโต้อยากจะกล่าวคำขอบคุณให้กับประสบการณ์สุดพิเศษในครั้งนี้

เค้กก้อนเมฆ Kumo ไม่เพียงแต่จะมีรสชาติที่อร่อย แต่ยังสวยงามเอามาก ๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ผู้คนจะแชร์เรื่องราวของเค้กชนิดนี้ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ถ้าหากว่าคุณอยากลองชิมเค้กก้อนเมฆดูบ้างแล้วล่ะก็ ลองแวะมาที่โรงแรม Mandarin Oriental กันได้ ซึ่งเค้กชิ้นนี้มีราคาอยู่ที่ 1,400 เยน หรือประมาณ 400 บาท ถึงแม้ว่าอาจจะฟังดูแพงไปอยู่สักนิด แต่ถ้าหากว่าคุณได้ลองชิมดูแล้ว เราบอกเลยว่าคุณจะรู้สึกประทับใจจนลืมราคาไปเลยล่ะ