กันแดดที่คนญี่ปุ่นเลือกใช้มากที่สุดของปี 2019

ผลิตภัณฑ์กันแดดแบบไหนเหมาะกับสภาพผิวเรา หรือสถานการณ์ไหนต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดประเภทไหนกันแน่ เราจะมาหาคำตอบกัน เมื่อเลือกกันแดดที่เหมาะกับเราได้แล้ว มาดูกันว่าผลิตภัณฑ์กันแดดและปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ขายดีในญี่ปุ่นในแต่ละประเภทมีอะไรบ้าง ต่อไปนี้เราจะได้เลือกใช้กันแดดตามวัตถุประสงค์และเหมาะกับสภาพผิวที่สุด

1. กันแดดแบบสเปรย์

ข้อดีของผลิตภัณฑ์กันแดดแบบสเปรย์คือ ใช้ง่าย สะดวก แค่ฉีด ไม่ต้องใช้มือทาให้เหนียวเหนอะหนะ เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องอยู่กลางแจ้ง ครีมกันแดดแบบสเปรย์ 2 รุ่นที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้มากที่สุดและอยากแนะนำ

UV Spray Makeup Keep

ผลิตภัณฑ์กันแดด UV Spray Makeup Keep แบบสเปรย์รุ่นนี้ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV ด้วยค่า SPF และ PA สูง รวมทั้งช่วยป้องกันการไม่ให้ make up หลุดหรือเป็นรอยระหว่างวัน เพียงแค่ฉีดหลังแต่งหน้า (ปริมาณ 60 กรัม ราคา 1,620 เยน หรือ 540 บาท)

Suncut Protect Spray

สเปรย์กันแดดรุ่นนี้จุดเด่นคือกันน้ำได้ด้วย บางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ ล้างออกได้ง่าย ๆ ด้วยสบู่ Suncut Protect Spray ไม่เพียงแต่เป็นกันแดดสำหรับผิวแต่ยังใช้ได้ดีกับผมอีกด้วย

2. กันแดดแบบเจล

กันแดดแบบเจลข้อดีคือ ใช้ง่าย ทาได้บ่อย ๆ เรื่อย ๆ เนื้อบางเบา ไม่มันเยิ้ม แต่ข้อควรระวังคือผลิตภัณฑ์กันแดดแบบเจลบางชนิดอาจไม่เหมาะกับสภาพผิวที่บอบบาง ขอแนะนำครีมกันแดดแบบเจลที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้มากที่สุด

Rohto Skin Aqua Moisture Gel

กันแดดแบบเจลรุ่น Rohto Skin Aqua Moisture Gel ให้ความชุ่มชื้นและมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและเรียบเนียนเหมือนทาโทนเนอร์ให้ผิว (ปริมาณ 110 กรัม ราคา 900 เยน หรือ 300 บาท)

3. กันแดดประเภทนม

กันแดดประเภทนมหรือมีส่วนผสมของน้ำนม ข้อดีคือมักจะทำจากส่วนผสมที่อ่อนโยนเหมาะกับผิวที่บอบบางหรือแพ้ง่าย แต่ข้อเสียคือกันแดดได้ไม่นาน อายุการใช้งานน้อย ต้องทาเติมบ่อย ๆ ขอแนะนำครีมกันแดดประเภทนมยอดนิยมของคนญี่ปุ่น 2 รุ่น

Biore UV Perfect Milk

กันแดดประเภทนม Biore UV Perfect Milk มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว ทาได้ทั้งหน้าหรือผิวตัว นอกจากช่วยกันแดดแล้วยังทำให้ผิวชุ่มชื้นนุ่มนวลน่าสัมผัส

Biore UV Athlizm Milk

จุดเด่นของกันแดดประเภทนมรุ่น Biore UV Athlizm Milk คือประสิทธิภาพในการกันน้ำยอดเยี่ยมและยาวนาน เหมาะที่จะใช้เมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาหรือพักผ่อนกลางแจ้ง และที่สำคัญคืออ่อนโยนต่อผิว

4. กันแดดประเภทโลชั่น

ข้อดีของครีมกันแดดประเภทโลชั่นคือใช้ง่าย เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวเด็ก แต่เนื่องจากเป็นครีมกันแดดแบบอ่อนโยนจึงไม่ทนทานมาก อาจจะไม่เหมาะกับการป้องกันแดดในที่กลางแจ้งหรือการเล่นกีฬา รุ่นยอดนิยมที่คนญี่ปุ่นใช้มากที่สุดคือ

Shiseido d program Allerbarrier Essense

กันแดดประเภทโลชั่นยอดนิยม แนะนำสำหรับผิวแพ้ง่าย มีคุณสมบัติที่ปกป้องรังสี UV อย่างยอดเยี่ยม และยังช่วยป้องกันผิวจากสารก่อภูมิแพ้และฝุ่นละออง

5. กันแดดประเภทครีม

จุดเด่นของกันแดดแบบครีมคือ ให้ความชุ่มชื้นสูงและมักจะกันน้ำ แต่ข้อเสียคือ เนื้อครีมมีความหนาและเหนียวเล็กน้อย บางผลิตภัณฑ์อาจจะกันแดดได้ไม่นาน สำหรับกันแดดแบบครีมขอแนะนำรุ่นนี้เลย

La Roche Posey UVIDEA XL Protection Tone Up

กันแดดแบบครีมรุ่น La Roche Posey UVIDEA XL Protection Tone Up ครองอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน เพราะผลิตจากส่วนผสมที่อ่อนโยนเหมาะกับผิวที่บอบบาง และยังมีคุณสมบัติพิเศษคือนอกจากใช้สำหรับปกป้องรังสี UV แล้ว ครีมรุ่นนี้ยังใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าเพื่อปรับสีผิวให้สว่างขึ้นได้อีกด้วย (ปริมาณ 30 ml ราคา 3,672 เยน หรือ 1,224 บาท)

6. กันแดดประเภทแป้งฝุ่น

ข้อดีของกันแดดประเภทแป้งฝุ่นคือ ใช้ง่าย สะดวกในการพกพา แต่เนื่องจากเป็นแป้งฝุ่นจึงมีค่า SPF ค่อนข้างต่ำ ขอแนะนำรุ่นนี้เลย ยอดนิยมของสาวญี่ปุ่น

ETVOS Mineral UV Powder

แป้งฝุ่นผสมกันแดดรุ่น ETVOS Mineral UV Powder มีคุณสมบัติพิเศษที่ยอดเยี่ยมเหมาะสำหรับการแต่งหน้า เนื้อแป้งเนื่องจากมีส่วนผสมของกันแดด จึงมีส่วนช่วยปกปิดร่องรอยและจุดด่างดำบนใบหน้าและป้องกันรังสี UV ด้วย แพ็คเกจก็น่ารักน่าใช้สุด ๆ

7. กันแดดแบบแท่ง

กันแดดแบบแท่งข้อดี  ติดทนนานสามารถทาไปที่ผิวได้เลยโดยที่มือไม่เลอะเหนียวเหนอะหนะ แนะนำให้ใช้เฉพาะจุดที่โดนแดดง่ายและรับแสงแดดตรง ๆ เช่น หน้าผาก จมูก แต่ต้องระวังเพราะกันแดดแบบแท่งอาจมีฤทธิ์ที่ค่อนข้างแรงและต้องทาบนผิวโดยตรง จึงไม่เหมาะกับผิวบอบบาง กันแดดแบบแท่งที่ชาวญี่ปุ่นนิยมใช้อันดับ 1 คือ

BRUSA MARINA Athlete Pro UV Stick EX