https://www.enjoytokyo.jp/gourmet/spot/l_00049150/
ทุกวันนี้ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีคาเฟ่ใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเพียบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแบบฮิปสเตอร์เอย แบบมินิมอลเอย แบบไหนก็ถูกใจสายคาเฟ่ไปเสียหมด เรียกว่าเป็นเมืองแห่งคาเฟ่เลยก็ว่าได้ แต่ทราบไหมคะว่าจริงๆ แล้ววัฒนธรรมคาเฟ่ของญี่ปุ่นมาจากร้านกาแฟที่เรียกว่า คิซซะเต็น (喫茶店) ซึ่งร้านแบบนี้ก็ยังคงมีอยู่ การตกแต่งร้านแบบยุคก่อนก้าวข้ามผ่านเวลามาสู่ยุคปัจจุบันจนกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “คลาสสิค” วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปจิบกาแฟใน 5 ร้านคิซซะเต็นของญี่ปุ่นกัน ไปดูกันดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าสนใจบ้าง
JUNKISSA MODEL (純喫茶 モデル)
https://hamarepo.com/story.php?page_no=1&story_id=6661
ร้านแรกที่เราจะนำเสนอนั้นเก่าแก่ของจริง ร้าน จุนคิซซะ โมเดล (Junkissa Model : 純喫茶モデル) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานี Ishikawacho ในเมืองโยโกฮาม่า ที่บอกว่าเก่าแก่ก็เพราะว่าร้านนี้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1974 ที่ยังคงเป็นที่รักของผู้คนในย่านนี้มาจนถึงปัจจุบัน
https://hanako.tokyo/shop/52798/
ร้านนี้เคยเป็นโลเคชั่นของภาพยนตร์เรื่อง The Girl Who Leapt Through Time (時をかける少女) ด้วยนะ โดยจุดเด่นของร้านก็คือประตูโค้งทำจากอิฐที่ดูเก่าแก่ ด้านในร้านเมื่อเดินเข้าไปก็เหมือนกับหลุดเข้าไปในยุคโชวะของญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้น มุมฮิตของร้านก็คือบริเวณโต๊ะรูปดอกไม้ มีเบาะนั่งสีเหลืองที่ด้านหลังเป็นผนังอิฐสีแดง เมนูเซ็ตแนะนำของที่นี่ต้องนี่เลย Limit set ที่มีทั้งแซนด์วิชแฮมไข่ กาแฟ และเมล่อนที่เสิร์ฟมาในสไตล์อาหารคาเฟ่ยุคเก่าของแท้
พิกัด : 1-7 Yoshihamacho, Naka, Yokohama, Kanagawa 231-0024
เวลา : 10:00-17:00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Ishikawacho (石川町駅) ทางออก North เดินต่ออีก 2 นาที
YOKOHAMA KAORI YAMASHITACHO HONTEN (横浜かをり 山下町本店)
https://hanako.tokyo/news/food/53186/
ร้าน โยโกฮาม่าคาโอริยามาชิตะโจ สาขาหลัก (YOKOHAMA KAORI YAMASHITACHO HONTEN : 横浜かをり 山下町本店) โดดเด่นด้วยต้นไม้เลื้อยที่บริเวณหน้าต่างชั้นสอง ขึ้นไปจนถึงบริเวณหลังคา ดูลึกลับน่าค้นหา ราวกับได้มาอยู่ในหนังการ์ตูนจากสตูดิโอจิบลิ ตัวตึกของร้านนั้นมีประวัติมาอย่างช้านานตั้งแต่สมัยปลายยุคเอโดะ พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นโรงแรมแบบตะวันตก จากนั้นก็ได้กลายเป็นร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสจนปัจจุบันได้กลายเป็นร้านสไตล์คิสสะเต็นที่ยังแฝงบรรยากาศเก่าๆ เอาไว้อยู่ในทุกอณูบรรยากาศของร้าน
https://hanako.tokyo/shop/52797/
หากมาร้านนี้แนะนำให้สั่งชามาทานคู่กับขนมอันขึ้นชื่อของเขา ไม่ว่าจะเป็นบิสกิตแซนด์วิชสอดไส้ครีมและลูกเกด รวมไปถึงมองต์บลังค์ที่ตกแต่งได้อย่างน่ารัก บรรยากาศในร้านนั้นก็วินเทจสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟสีส้มจากโคมไฟบนเพดาน การจัดวางที่นั่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบเรโทรผสมวินเทจ เมื่อได้เข้ามานั่งแล้วรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
พิกัด : 70 Yamashitacho, Naka Ward, Yokohama, Kanagawa 231-0023
เวลา : ร้านเบเกอรี่ชั้น 1 เปิดขายระหว่าง 9:00-19:00 น. (วันธรรมดา) 10:00-19:00 น. (วันเสาร์) และ 12:00-19:00 น. (วันอาทิตย์และวันหยุดอื่นๆ) / ร้านคิสสะเต็นเปิดระหว่าง 11:30-19:00 น. 11:30-19:00 น. (วันเสาร์) และ 12:00-19:00 น. (วันอาทิตย์และวันหยุดอื่นๆ)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Nihon Odori (日本大通り駅) เดินต่ออีก 3 นาที
Coffee no Daigakuin Lumiere de Paris (コーヒーの大学院 ルミエール・ド・パリ)
http://www.tabiulala.com/yokohama/spot034/index.html
ร้านต่อมามีชื่อว่า คอฟฟี่ โนะ ไดกะคุอิน ลูมิแยร์ เดอ ปารีส (Coffee no Daigakuin Lumiere de Paris : コーヒーの大学院 ルミエール・ド・パリ) ฟังแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ร้านที่ธรรมดาแน่ ๆ เพราะร้านนี้เขาโด่งดังมาก ๆ ในระดับประเทศ ใครที่ชื่นชอบกาแฟจะต้องมีสักครั้งที่ต้องแวะมาชิมกาแฟที่นี่ให้ได้ ภายในร้านนั้นตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ โคมไฟแชนเดอเลีย รวมไปถึงแก้วกาแฟก็มีลวดลายที่สวยงามแบบผู้ดีฝรั่งเศส
https://kinarino.jp/cat8-旅行・お出かけ/34231-歴史ある純喫茶をめぐる旅。【横浜・馬車道・関内】の「レトロ喫茶店」5選
หากมาดื่มกาแฟที่นี่เราขอแนะนำเมนู Lumiere Blend ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 เยน (ประมาณ 300 บาท) ที่เราจะได้ดื่มกาแฟจากเหยือกที่ออกแบบมาให้เป็นเหมือนหลอดทดลองวิทยาศาสตร์ ส่วนอีกหนึ่งเมนูคือ Café Royale ที่เราจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการละลายน้ำตาลด้วยการลนไฟที่ตรงหน้าของเราเอง
พิกัด : 1 Chome-18 Aioicho, Naka Ward, Yokohama, Kanagawa 231-0012
เวลา : วันจันทร์-ศุกร์ 9:30-21:30 น. วันเสาร์ 10:30-21:30 น. หยุดทุกวันอาทิตย์
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Kannai (関内駅) เดินต่ออีก 5 นาที
SAMOVAR BASHAMICHI (サモアール 横浜馬車道店)
https://yokohama-sozokaiwai.jp/eat/722.html
หากใครชอบดื่มชาแนะนำให้มาร้านนี้ เพราะร้าน ซาโมวาร์ สาขาบาฉะมิจิ (SAMOVAR BASHAMICHI : サモアール 横浜馬車道店) แห่งนี้ถือเป็นร้านชาแบบตะวันตกแห่งแรกของญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974 ในปัจจุบันทางร้านมีสาขามากถึง 4 สาขาแล้ว แต่สาขาที่แนะนำอยากให้มากันก็คือที่บาฉะมิจิ เพราะภายในร้านนั้นกว้างขวาง เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ก็ให้อารมณ์เรโทรแบบสุด ๆ
https://www.enjoytokyo.jp/gourmet/spot/l_00049149/
ร้านนี้มีชาให้เลือกกว่า 100 แบบ แต่ที่อยากให้มาลองชิมกันให้ได้ก็คือเมนู Iced Royal Milk Tea ชารสเข้มข้นเข้ากันได้ดีกับครีมสดเต็มแก้ว ให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม รับรองเลยว่าถูกใจสายชานมอย่างแน่นอน มีเครื่องดื่มไปแล้วก็ต้องมีอาหาร จานที่เราอยากแนะนำก็คือข้าวไข่ข้นของเขา ที่รสชาติอร่อยจนต้องยกนิ้ว เมนูนี้โด่งดังถึงขนาดที่ว่ามาร้านนี้เพื่อมาทานข้าวไข่ข้นโดยเฉพาะ
พิกัด : 4 Chome-67-1 Bentendori Naka-ku Yokohama-shi Kanagawa-ken
เวลา : 11:00-22:00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Bashamichi (馬車道駅) เดินต่ออีก 1 นาที
BASHAMICHI JYUBANKAN (馬車道十番館)
http://www.yokohama-jyubankan.co.jp/
และร้านสุดท้ายที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปก็คือ บาฉะมิจิ จูบันคัง (BASHAMICHI JYUBANKAN :馬車道十番館) ที่เป็นทั้งร้านขนม ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และบาร์ ด้านในตัวร้านดีไซน์ตามแบบสไตล์ยุโรป มีการตกแต่งด้วยกระจกสี และมีชั้นลอยที่เป็นระเบียงสามารถมองเห็นโต๊ะและเก้าอี้โทนสีแดงที่อยู่ด้านล่าง ให้บรรยากาศที่คลาสสิค
https://www.facebook.com/馬車道十番館-332542780245694/
เมนูแนะนำของที่นี่ก็คือเซ็ตขนม Jyubankan Pudding Royale ขนมพุดดิ้งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตึกโกดังแดงโยโกฮาม่าราดด้านบนด้วยคัสตาร์ดซอส ประดับด้วยผลไม้ และกาแฟ Original Blend ที่ให้ความรู้สึกไฮคลาสแบบสุดๆ
พิกัด : 5-5-67 Tokiwachō, Naka-ku, Yokohama-shi, Kanagawa-ken, 231-0014
เวลา : 10:00-22:00 น.
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kannai (関内駅) ทางออก 9 เดินต่ออีก 1 นาที
แหล่งที่มา : kinarino