เมื่อพูดถึงฤดูร้อนของญี่ปุ่น ภาพแรกที่หลายๆ คนนึกถึงคงเป็นดอกไม้ไฟ ชุดยูกาตะ และการออกร้านในงานเทศกาลต่างๆ แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กันในช่วงฤดูร้อนนั่นก็คือ “หิ่งห้อย” ที่จะพากันเปล่งแสงระยิบระยับออกมาในช่วงค่ำคืนของฤดูร้อนทุกๆ ปี แต่บางคนอาจถอดใจเพราะคิดว่าสามารถหาชมหิ่งห้อยได้ในชนบทที่เข้าถึงได้ยากเท่านั้น แต่วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 สถานที่ในโตเกียวที่คุณสามารถเดินทางไปสัมผัสความงดงามของแสงหิ่งห้อยได้อย่างใกล้ชิดและสะดวกสบายในโตเกียว
1. สวนพฤกษศาสตร์ชิบูย่า ฟูเรไอ (Shibuya’s Fureai Botanical Garden Center)
สวนพฤกษศาสตร์ชิบูย่า ฟูเรไอ ถือเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในย่านช้อปปิ้งอันโด่งดังของกรุงโตเกียวอย่างชิบูย่า โดยอยู่ห่างจากสถานีชิบูย่าประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในสวนประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้เขตร้อนกว่า 200 ชนิด และในช่วงฤดูร้อนนั้นจะมีกิจกรรมพิเศษที่มีชื่อเสียงคือ “Hotaru no Yube” หรือการชมหิ่งห้อยในตอนค่ำ ซึ่งทางสวนพฤกษศาสตร์นั้นเพาะเลี้ยงหิ่งห้อยสองสายพันธุ์หลักของญี่ปุ่นคือ “Heike Botaru” และ “Genji Botaru” โดยการชมหิ่งห้อยนั้นจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ประมาณ 17:30 น. เป็นต้นไป
การเดินทาง: จากทางออกทิศตะวันออกของสถานีชิบูย่า เดินต่อมาประมาณ 12 นาที
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
2. เทศกาลหิ่งห้อยเซตากายะ (Setagaya’s Firefly Festival)
เทศกาลหิ่งห้อยเซตากายะนั้นจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-15 กรกฎาคม โดยภายในงานนั้นจะมีการออกร้านขายของและขายอาหารตามแบบฉบับของงานเทศกาลฤดูร้อนของญี่ปุ่น รวมไปถึงการบรรเลงดนตรีและการแสดงต่างๆ ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่ดึงดูดให้มีผู้มาเข้าร่วมชมงานมากกว่า 25,000 คน และนอกจากการได้รับชมความงามของหิ่งห้อยตามธรรมชาติภายในงานแล้ว ผู้เข้าร่วมงานยังได้ชมความงามของกล้วยไม้สายพันธุ์ “Sagiso” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นดอกไม้ประจำเขตเซตากายะ ซึ่งจะผลิบานอย่างสวยงามในช่วงเวลาจัดเทศกาลพอดี
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Tokyu Setagaya ไปลงที่สถานี Setagaya จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
3. สวนพฤกษศาสตร์โรงแรม Chinzanso (Hotel Chinzanso’s Garden)
สำหรับใครที่ต้องการสัมผัสความงดงามของแสงหิ่งห้อยในคืนฤดูร้อน พร้อมๆ กับการดื่มด่ำบรรยากาศแสนสงบและทานอาหารอร่อยๆ ไปในเวลาเดียวกัน ขอเชิญที่สวนพฤกษศาสตร์โรงแรม Chinzanso แห่งนี้ ซึ่งถือเป็นกิจกรรมพิเศษและเป็นจุดขายของโรงแรมมานับตั้งแต่ปี 1954 เพื่อให้แขกของทางโรงแรมและบุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาทานอาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ระหว่างการชมแสงไฟจากหิ่งห้อยนับพันตัวที่ทางโรงแรมเพาะเลี้ยงเอาไว้ โดยราคาอาหารนั้นจะอยู่ที่ 9,800 เยน (2,940 บาท) สำหรับวันจันทร์-วันพฤหัสบดี และ 10,500 เยน (3,150 บาท) สำหรับวันศุกร์-วันอาทิตย์ ซึ่งรวมอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ เครื่องดื่ม และการชมหิ่งห้อยเอาไว้หมดแล้ว
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Yurakucho ไปลงที่สถานี Edogawabashi ออกทางออก 1A จากนั้นเดินต่ออีก 10 นาที
ค่าเข้าชม: 9,800 เยน (2,940 บาท) สำหรับวันจันทร์-วันพฤหัสบดี และ 10,500 เยน (3,150 บาท) สำหรับวันศุกร์-วันอาทิตย์
4. สวนเซย์จิ ภายในสวนสนุกโยมิอุริแลนด์ (Yomiuri Land’s Seichi Park)
ตลอดทั้งช่วงฤดูร้อนในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม สวนสนุกโยมิอุริแลนด์นั้นได้จัดกิจกรรมชมหิ่งห้อยในชื่องานว่า “Hotaru no Yoi” ที่บริเวณสวนเซย์จิในพื้นที่ของสวนสนุก นอกจากจะมีบรรยากาศอันสนุกสนานแล้ว โดยรอบพื้นที่จัดงานยังเต็มไปด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ซึ่งการจำหน่ายบัตรเข้าชมนั้นก็มีทั้งแบบที่รวมค่าเข้าสวนสนุกแบบครึ่งวัน หรือจะซื้อบัตรชมหิ่งห้อยเพียงอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Odakyu หรือ Keio มาลงที่สถานี Yomiuri Land-mae จากนั้นต่อรถบัสมาลงที่สวนสนุก
ค่าเข้าชม: 500 เยน (150 บาท) สำหรับชมหิ่งห้อยอย่างเดียว หรือ 2,600 เยน (780 บาท) สำหรับบัตรเข้าสวนสนุกแบบครึ่งวันและเข้าชมหิ่งห้อย
5. สวนยุยะเคะ โคยะเคะ ฟุเรไอ โนะ ซาโตะ ในเขตฮาชิโอจิ (Hachioji’s Yuyake Koyake Fureai no Sato)
สถานที่อันดับสุดท้ายอาจเป็นสถานที่ที่ฟังดูไม่คุ้นเคยแม้สำหรับชาวโตเกียวเองก็ตาม โดยสวนแห่งนี้เป็นสวนที่ตั้งอยู่ในเขตชานเมืองโตเกียวซึ่งมีบรรยากาศคล้ายกับในชนบท ซึ่งในเวลาปกตินั้นเป็นพื้นที่สำหรับเอาไว้ทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ทั้งตั้งแคมป์ และย่างบาร์บีคิว แต่ระหว่างฤดูร้อน ภายในสวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยหิ่งห้อยจำนวนมากที่ออกมาเปล่งแสงอย่างสวยงามในยามค่ำคืน ท่ามกลางความเงียบสงัดของธรรมชาติที่ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมือง
การเดินทาง: ขึ้นรถไฟสาย Keio มาลงที่สถานี Takao จากนั้นต่อรถบัส Nishi-Tokyo มาลงป้าย Yuyake Koyake
ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี
แหล่งที่มาเรื่องและภาพ : savvytokyo