เผย 7 เคล็ดลับความงามมีออร่าของสาวญี่ปุ่น ที่คุณก็สามารถนำไปใช้ได้!!!

     จากการทำสิ่งเหล่านี้เป็นประจำของผู้หญิงญี่ปุ่นมาหลายศตวรรษ ไปจนถึงไอเท็มบิวตี้ที่จำเป็น เราจะมาเปิดเผยเคล็ดลับบางอย่างที่ทำให้ผู้หญิงญี่ปุ่นแลดูอ่อนเยาว์ มีผิวที่สวยและกระชับเต่งตึงกันค่ะ!!
     ในทุกๆซีซั่น ก็จะมีผลิตภัณฑ์ความงามใหม่ๆเปิดตัว และเราก็จะได้เห็นโฆษณาต่างๆ ประมาณว่า หากเราซื้อสินค้าตัวนี้แล้ว มันจะทำให้ชีวิตของพวกเราดีขึ้นมากเลยทีเดียว คุณจะดูเด็กลง 10 เท่า ผิวของคุณจะเต่งตึง และในที่สุด Mr. Right จะเดินมาเคาะประตูของคุณ! มันเจ๋งใช่มั้ยล่ะคะ ราวกับว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่ทำให้เราดูดีขึ้นมานั้น อยู่ที่วิธีปฏิบัติในชีวิตประจำวันต่างหาก ที่จะทำให้ร่างกายของคุณเปล่งปลั่งและคงรูปร่างที่สวยงามได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเงินให้กับสิ่งที่เป็นปัจจัยภายนอกเหล่านั้นเลย
     นี่เป็น 7 อย่างประจำวัน ที่ผู้หญิงญี่ปุ่นทำและได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า สิ่งเหล่านี้แหละ คือเคล็ดลับความงามที่ยาวนานที่แท้จริง!!

1. ขัดผิวด้วยถั่วแดง
    ตั้งแต่สมัยนารา (710-794) ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ได้ใช้ถั่วแดงเพื่อประกอบอาหารเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังใช้สำหรับบำรุงผิวให้ดูมีสุขภาพดีอีกด้วย เพียงแค่นำไปบดหยาบๆแล้วนำมาขัดผิว ถั่วแดงเป็นยาธรรมชาติที่แสนวิเศษสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวหรือสิวเสี้ยนหรือผู้ที่ต้องการลดริ้วรอย พืชตระกูลถั่วเหล่านี้ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและมีสารที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติซึ่งเรียกว่า Saponin ช่วยทำความสะอาดและกระชับรูขุมขน อีกทั้งยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เผยผิวกระจ่างใส แถมยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี
   การทำสครับต่อต้านริ้วรอยด้วยถั่วแดงนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย เพียงแค่ใช้เครื่องบดกาแฟหรือครก บดถั่วแดงแห้งครึ่งถ้วยให้เป็นผงกึ่งละเอียด ใส่ลงในถ้วยและแช่เย็นประมาณ 2-3 ชั่วโมง จากนั้น ตักขึ้นมาครึ่งช้อนชา วางบนฝ่ามือของคุณและผสมกับน้ำไม่กี่หยด พอผงถั่วเริ่มเกาะตัวเหนียวแล้ว จึงค่อยทาลงไปบนใบหน้าโดยนวดวนๆไปทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 2 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ หมั่นทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ แล้วคุณจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือนค่ะ!

2.เลือกทานอาหารเพื่อรักษาความสมดุลด้วยวิธีดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมานาน
   เรามักลืมว่าสิ่งที่เราใส่ลงไปในร่างกายของเรา จะเชื่อมต่อโดยตรงกับออร่า Outer ของเราที่มองมาจากด้านนอก อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมักทำภายใต้หลักการ Ichijyu Sansai (ซุป 1 ถ้วย ผัก 3 จาน บวกข้าวและเมนูปลา) เพื่อสร้างความสมดุล การกระจายอาหารลักษณะนี้ จะอุดมไปด้วยวิตามินและกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการผลิตสารพิษของร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดสภาพผิวอักเสบและริ้วรอยก่อนวัยได้
   สาหร่ายทะเล (wakame) และสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล (kaiso) พบได้ในเกือบทุกจานของอาหารญี่ปุ่น (และซูเปอร์มาร์เก็ต) อุดมไปด้วยไอโอดีนและเคราติน ทั้งคู่เป็นสารที่จำเป็นมากที่จะช่วยให้ผิวแข็งแรง เล็บและเส้นผมเงางาม ปลาอุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันต่ำ ในขณะเดียวกันผักก็ให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ญี่ปุ่นยังเป็นบ้านของ Superfoods เช่น Konjac, Kinako และ Natto ซึ่งมีราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับ superfoods อื่นๆในต่างประเทศ

3. บำรุงผิวด้วยรำข้าว
   เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักและชื่นชมถึงประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมของ Komenuka หรือรำข้าว ที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (มากกว่า 70 !) และสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ ผงรำข้าวถูกนำมาใช้ในการขัดผิวบนใบหน้าและบำรุงผิวพรรณ อีกทั้งยังช่วยต่อสู้กับริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย และยังแก้ปัญหาสิวและทำให้ผิวกระชับเต่งตึงและอ่อนนุ่ม
   ผลิตภัณฑ์ Komenuka ได้รับความนิยมมานานหลายทศวรรษแล้ว และได้รับความนิยมใน Drugstores แต่มันยังทำได้ง่ายๆที่บ้าน เพียงแค่ใส่ข้าวลงไป 3 ช้อนโต๊ะใหญ่ๆในหม้อขนาดเล็ก แล้วต้มสัก2-3นาที หรือจนกว่าน้ำจะขุ่นเล็กน้อย กรองข้าวออก แต่อย่าลืมเก็บน้ำไว้ เพราะนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะนำมาบำรุงผิวหน้า
   ใส่นมลงไป 1 ช้อนโต๊ะและผสมให้เข้ากันกับข้าวที่กรองออกมา จากนั้นก็ให้ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนผสมควรจะเหนียวพอที่จะอยู่บนใบหน้าของคุณเมื่อทาลงไปแล้ว ทามาร์กข้าวลงไปบนผิวที่แห้งและสะอาด ทิ้งไว้แบบนั้นจนมาร์กเริ่มแห้ง ตอนล้างให้ใช้น้ำข้าวที่เก็บไว้ล้างออก นี่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นแต่ยังช่วยเพิ่มสารบำรุงเข้าไป น้ำข้าวยังสามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสและจุดด่างดำยังดูจางลงอีกด้วย

4. ใช้ชาเขียวให้เป็นประโยชน์ในหลายๆด้าน
   ชาเขียวมีคุณสมบัติมากมาย ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก ต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบอีกด้วย ชาเขียวเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่น ผู้หญิงญี่ปุ่นจึงนำชาเขียวมาเป็นส่วนหนึ่งของความงามของพวกเขา ดูได้จากการที่ใส่สารสกัดลงไปในโลชั่นและยาบำรุงต่างๆ ใส่ใบชาเขียวลงไปในเกลือขัดผิวตอนอาบน้ำ และแม้กระทั่งใส่ผงชาเขียวลงไปเพื่อทาบำรุงผิวและทรีทเม้นท์ผม
   ใบชาเขียวเหล่านี้ มักรู้จักกันในชื่อ "มัทฉะ" และเป็นที่รู้กันว่า มีความเข้มข้นของสาร Catechin Polyphenols สูงมาก ซึ่งสารนี้แหละ จะช่วยกระชับให้ผิวเต่งตึง และยังมีประโยชน์มากมายทั้งด้านสุขภาพและความงาม!!
   ผงชาเขียวสามารถเป็นเกราะป้องกันความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวี กระตุ้นการตายของเซลล์ผิว ลดการอักเสบ (โดยเฉพาะผิวที่เป็นสิว) และช่วยปรับโทนผิวให้มีความสม่ำเสมอ

5. อาบน้ำทุกวันและแช่ออนเซ็นบ่อยๆ
การอาบน้ำในญี่ปุ่นเป็นมากกว่าการทำความสะอาดเพราะมันคือพิธีกรรมความงาม!
   Onsen (น้ำพุร้อนธรรมชาติ) และ Sento (ที่แช่น้ำร้อนสาธารณะ) กระจายอยู่ทั่วใจกลางเมืองต่างๆ รีสอร์ท และทุกๆที่ ที่เราจะสุ่มเลือกขึ้นมา จึงเปิดโอกาสให้ผู้คนมากมายสามารถแช่น้ำ สครับผิว และผ่อนคลายในน้ำธรรมชาติที่อุดมด้วยสารอาหาร แต่อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำในอ่างอาบน้ำที่บ้านก็เป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของสตรีชาวญี่ปุ่นทุกคน
   การอาบน้ำก่อนนอน ไม่เพียงแค่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ป้องกันอาการเอ็นไหล่แข็งและอาการปวดหลัง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและป้องกันอาการขาบวม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและเติมพลังให้กับผิว ให้ใส่น้ำมันหรือเกลือธรรมชาติลงไปด้วย ไอน้ำของมันยังเป็นวิธีที่ดีในการดีท็อกซ์และช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้ผิว การอาบน้ำจะช่วยเพิ่มการผลิตเมลาโทนิตามธรรมชาติของร่างกายให้เร็วขึ้น ช่วยปรับฮอร์โมนให้ให้หลับได้ดีขึ้น

6. การกิน ความรักและการบูชาน้ำมัน Tsubaki (น้ำมันคามิเลีย)
   เป็นเวลาหลายศตวรรษที่สตรีชาวญี่ปุ่นหันมาหาน้ำมัน Tsubaki (Camellia) สำหรับผิวพรรณ เส้นผม และการมีสุขภาพที่ดีทั้งหมด เราจะพบบ่อยขึ้นในผลิตภัณฑ์สำหรับผม น้ำมันนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 9 สูงเป็นพิเศษ (หรือที่เรียกว่ากรดโอเลอิก) โปรตีนที่จำเป็นและกลีเซอรีน ซึ่งส่งผลให้เส้นผมมีสุขภาพดี เงางาม ผมดูมีวอลลุ่มและอ่อนนุ่ม อีกทั้ง น้ำมัน Tsubaki ยังได้ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดคอเลสเตอรอลและปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุลอีกด้วย
   สามารถทาได้โดยตรงกับผิวที่แห้งหรือมีแนวโน้มเป็นสิวง่ายหรือบนเส้นผม อีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้คือ นำมาทอดอาหาร เช่น เทมปุระ ซึ่งน้ำมันปรุงอาหาร Tsubaki จะมีน้ำหนักเบากว่าน้ำมันสลัดและอุดมไปด้วยวิตามินมากกว่า