ใครว่าลุคแต่งหน้าญี่ปุ่นมีแต่สายแบ๊วเท่านั้น!

บิวตี้ พิกอัพ
Published · Updated 20.07.2017

ก่อนอื่นเบียจิอยากให้เพื่อนๆ ลบภาพสาวใส คาวาอี้ แบ๊วๆ ออกไปเพราะเมคอัพสาวญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ความละมุนเท่านั้น!! ขอบอกตรงนี้เลยว่า ถ้าเราเดินตามดงที่เต็มไปด้วยแฟชั่นนิสต้าตัวแม่แล้วล่ะก็ สายแน่นก็มีอยู่ไม่น้อยนะจ๊ะ บางลุคเห็นทีถึงกับเอามือแนบอกแล้วร้อง คุณพระ! และลุคที่เบียจิคัดมาในวันนี้ เป็นเพียงแค่บางลุคที่เบียจิเห็นว่ามันดูญี่ปุ๊นญี่ปุ่นดี เอาล่ะ เราไปดูกันดีกว่าว่ามีลุคอะไรบ้าง

ย้อนไปตั้งแต่สมัยปี 1998 ถึงปี 2000 ที่ย่านชิบูย่าก็มักจะเป็นแหล่งรวมตัวของสาวแกลสไตล์ยามัมบะ (Yamanba) ยุคนี้เป็นยุคที่งานผิวสีได้รับความนิยมมาก สาวแกลทุกคนจะไปอาบแดดให้ตัวดำตัดกับสีผมจี๊ดๆ แต่ทีเด็ดมันอยู่ตรงเมคอัพของพวกหล่อนนั่นแหละ เบียจิคาดว่าสมัยนั้นความหน้าวาวเป็นหนังปลาทูยังไม่บูม การไฮไลท์สันจมูกและอายแชร์โดวที่เล่นใหญ่ตั้งแต่ใต้ท้องคิ้วลงไปถึงหน้าแก้มก็จะใช้สีขาว(เรียกว่า Panda Make) รวมไปถึงลิปสติกด้วย เพื่อให้เกินการคอนทราสกับผิว ย้ำว่าสีอื่นไม่ได้นะ เดี๋ยวจะหลุดคอนเซปต์ ส่วนการกรีดอาย (ที่ควรจะเรียกว่าถมน่าจะเหมาะกว่า) ก็จะถมให้ตาดูตกๆ เกินเบ้าตา และวาดให้หัวตาจิกเหมือนนก ปิดท้ายด้วยการติดขนตาเบอร์ฟูสุดทั้งบนล่าง ชิคๆ ด้วยการเพิ่มลูกเล่นโดยการเอาลูกปัด สารพัดของกุ๊กกิ๊กติดตามโหนกใต้ตา หรือหน้าแก้ม

Gal หรือ สาวแกล ง่ายๆ ก็คือเด็กแว๊นญี่ปุ่น (ที่ไม่แว๊น) ถึงจะบอกว่าเป็นเด็กแว๊น แต่สาวๆ เหล่านี้ ไม่ได้มานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ผู้ชาย หรือเป็นนักบิดแต่อย่างใด แค่สาวแกลจะเป็นผู้หญิงแรงส์ แต่งตัวจัดๆ ผมยาวสีทองดัดลอน อาบแดดให้ผิวดำ ส่วนเมคอัพของพวกเธอได้พัฒนามาจากยามัมบะให้ดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น ยังคงติดขนตาแผ่เบอร์หนาสุด และเน้นติดขนตาปลอมด้านล่างเฉพาะตรงปลายตาช่วยให้ดวงตาดูกลมโต กันคิ้วโก่ง บางเฉียบ จนไม่เหลือคิ้วจริง! ส่วนสีลิปที่ต้องมีติดตู้เลยคือสี Nude ทับด้วย Gloss

ยุคของสาวแกลปัจจุบัน ก็มีหลากหลายขึ้น ไม่จำเป็นต้องผิวดำ ผมทองเสมอไป การแต่งหน้าเริ่มเบาลง ค่อยๆ เปลี่ยนจากการติดขนตาเป็นต่อขนตาแทน เขียนอายไลน์เนอร์วิงค์ๆ และเพิ่มลุคด้วยคอนแทกเลนส์ตาน้ำข้าว หลังจากที่เทรนด์คิ้วอุย คิ้วธรรมชาติได้รับความนิยมในช่วง 2-3 ปีให้หลัง คิ้วของสาวแกลก็ดูเป็นคิ้วมากขึ้น ปากก็ขยับมาทาสีแนวๆ Coral แต่ยังคงไม่ทิ้งสี Nude สาวญี่ปุ่นจะชอบทาลิปเนื้อ Sheer หรือไม่ก็ Gloss ให้ปากดูอิ่มน่าจูบ

ช่วงปี 2015 จนถึงปัจจุบันได้ถือกำเนิดแกลสายพันธุ์ใหม่หรือแกลสาย ฝ ขึ้น สไตล์การแต่งตัวแต่งหน้าของสาวญี่ปุ่นเริ่มเหมือนวัยรุ่นฝรั่ง ฟอกผมขาวและเพิ่มลูกเล่นกับสีผม ยุคของการติดขนตาไม่นิยมอีกต่อไป แต่จะเน้นการต่อขนตาให้ฟูๆ อาจจะมีคัดเบ้าอ่อนๆ และกรีดอายไลน์เนอร์ให้เป็นแคทอาย ส่วนงานคิ้วยังคงตามเทรนด์คิ้วหนาแบบ Cara Delevingne และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือคอนเทคเลนส์สีเทา! จะอมฟ้า อมเขียมก็ว่ากันไป แต่ต้องตาน้ำข้าว ส่วนลิปก็ไม่จำเจ หันมาทาสีสดๆกันบ้าง แต่ที่เห็นส่วนใหญ่มักจะเป็นสีชมพูอมม่วง

อิการิ เมคอัพ? ฟังแล้วอาจจะงงๆ แต่มันก็คือซับเซทใหญ่ของการแต่งหน้าแนว Hangover Makeup นั่นแหละ ซึ่งลุคนี้เป็นลุคที่ Makeup Artist ชื่อดังในญี่ปุ่น “Igari shinobu” ได้ครีเอทขึ้นมา โดยจะเน้นการแต่งหน้าที่ดูธรรมชาติ งานผิวโกลวเริ่มมา ตาเบา ปากเบา แต่ฟาดพวงแก้มด้วยสีชมพูอมแดงให้ดูสุขภาพดี เลือดฝาดเหมือนกินมะเขือเทศมาทั้งสวน ลุคนี้จะช่วยให้สาวๆ ดูเป็นผู้หญิงน่าทะนุถนอม

เมคอัพลุคคนเมาเป็นเทรนด์เมคอัพฤดูใบไม้ผลิ ปี2015 ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเมคอัพที่แต่งเพื่อถ่ายแบบให้ดูชิคๆ แต่ก็ได้รับความนิยมจนกลายเป็นเมคอัพที่สาวแฟชั่นนิสต้าชอบแต่งกัน ว่ากันว่า เวลาที่ผู้หญิงเมาเนี่ย จะดูน่ารักขึ้นมาทันทีในสายตาผู้ชาย (ถ้าผู้ชายเมา นั้นอีกเรื่องนึงนะ) และนี้คือวิธีอันแยบยลของสาวญี่ปุ่นที่จะมัดใจ ทำให้ผู้ชายหลงเสน่ห์เอาง่ายๆ

เมคอัพตากระต่าย หรือเมคอัพลุคหลังร้องไห้จนตาบวม (ใครมันช่างคิดลุคนี้ขึ้นมาห๊ะ?) เป็นอีกหนึ่งเมคอัพที่สาวๆ นิยมแต่งกันมาก กิมมิคของลุคนี้ก็คือการใช้อายแชร์โดวหรือบลัชออนเนื้อครีม สีแดง โนชิมเมอร์ มาแต้มๆ ใต้ตาแล้วเกลี่ยให้ดูฟุ้งๆ #มันก็จะแบ๊วๆหน่อย อย่าทาเยอะเกินไปล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นโดนต่อยมา ส่วนแก้มและปากก็ขอให้คุมโทนไปในทางเดียวกัน ไม่ต้องจัดมาก สำหรับลุคนี้แค่ระเรื่อๆ ก็อยู่แล้ว