ปราสาทคานาซาว่า
วันที่2 - ตื่นเช้ารับอากาศที่สดใส เช็คเอ้าท์แล้วออกไปเดินเล่นกันดีกว่า วันนี้ตั้งใจจะเดินเป็นหลัก ส่วนใครที่ไม่อยากเดินก็สามารถนั่งรถบัสท่องเที่ยวเหมือนเดิมก็ได้เช่นกัน สถานที่แรกที่จะไปนั่นก็คือปราสาทคานาซาว่า รอบนี้จะเป็นการเดินเข้าไปเที่ยวชมจุดต่างๆ ของปราสาท ปราสาทคานาซาว่า เริ่มมีการก่อสร้างขึ้นในปี 1580 แต่ก็สร้างไปได้แค่เพียงคูน้ำส่วนหนึ่งเท่านั้น ภายหลังศึกที่ชิซุกะทาเคะ มาเอดะ โทชิอิเอะ ก็ได้เข้ามาปกครองแคว้นคากะ และสร้างปราสาทคานาซาว่าในปี 1583 ปราสาทคานาซาว่าปกครองโดยตระกูลมาเอดะถึง 14 รุ่น จนถึงยุคเมจิ แต่เดิมหอกลางของปราสาทมีความสูงถึง 6 ชั้น แต่ก็ถูกไฟเผาทำลายลงไป ภาพที่เราเห็นจนชินคา ไม่ใช่หอกลางปราสาท แต่เป็นกำแพงชั้นในของปราสาท โครงสร้างทั้งหมดของปราสาทคานาซาว่าล้วนทำจากไม้ทั้งสิ้น ไม่มีการตะปูในการเชื่อมต่อแต่อย่างใด เป็นเทคนิคการใช้ไม้ในการขยายตัวจนยึดติดกัน หากเดินไปทางสวนเคนโรคุเอน เราก็จะได้เจอกับ อิชิคาว่า-มง ประตูปราสาทที่เชื่อมต่อกับสวนเค็นโรคุเอน ถ้ามาในช่วงซากุระ ที่นี่ก็จะเต็มไปด้วยต้นซากุระ ออกดอกสีชมพูสดใส เบ่งบานต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ
ต้นซากุระที่ อิชิคาว่า-มง
โครงสร้างภายในปราสาทคานาซาว่า
พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดอิชิคาว่า และ คาเฟ่ Le Musee de H KANAZAWA
มื่อเดินเที่ยวปราสาทคานาซาว่าจนหนำใจแล้ว ก็เดินไปที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดอิชิคาว่า แต่เป้าหมายของการมาที่นี่ก็คือ Le Musee de H KANAZAWA คาเฟ่ขนมหวานที่ใช้วัตถุดิบชั้นเลิศของจังหวัดอิชิคาว่ามาทำเป็นขนมสตล์ตะวันตก โดยคุณ สึจิกุชิ ฮิโระโนะบุ เชฟขนมหวานชาวอิชิคาว่าผู้ที่โด่งดังไปทั่วประเทศญี่ปุ่น หรือใครอยากจะเที่ยวชมงานศิลปะของจังหวัด ก็สามารถเข้าชมงานได้เช่นเดียวกัน
Le Musee de H KANAZAWA
ร้านขนมหวานสไตล์ตะวันตก ที่ใช้วัตถุดิบจากจังหวัดอิชิคาว่ามาทำขนมมากมายหลากหลายชนิดให้เลือก
เวลา: 10:00น. – 19:00น. (เปิดทุกวัน)
บ้านซามูไรตระกูลโนมุระ
หลังจากกินขนมเสร็จเรียบร้อย ก็ออกเดินทางต่อไปที่ย่านโครินโบ ย่านธุรกิจและย่านช้อปปิ้งของคานาซาว่า ใครอยากจะแวะก็สามารถแวะเดินห้างได้ที่นี่ หรือจะไปสถานที่ต่อไป ก็ตามมาได้เลย และเป้าหมายของเราก็คือเขต นากะ-มาจิ บุเคะ ยาชิคิ เขตหมูบ้านซามูไรเก่าแก่มีกำแพงโคลนสีเหลืองเรียงยาวต่อกันเป็นเอกลักษณ์ หากมาในช่วงฤดูหนาว กำแพงบ้านก็จะถูกติดด้วยโคโมะ หรือเสื่อฟางเพื่อป้องกันหิมะอีกทีหนึ่ง หากเดินต่อไปอีกเพียงเล็กน้อยก็จะพบกับบ้านของซามูไรตระกูลโนมุระ ตระกูลซามูไรในอดีต บ้านหลังนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ห้องต่างๆ มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ที่โดดเด่นที่สุดก็คือสวนภายในบ้านที่ทำเอานั่งลืมเวลาไปหลายสิบนาทีโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย ความรู้สึกเวลานั่งชมสวนนี้คือความสงบสุข ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง นั่งฟังเสียงน้ำ เสียงลมอ่อนๆ ได้เรื่อยๆ นักท่องเที่ยวทุกคนต่างพากันมานั่งชมสวนกันแบบเงียบๆ ถึงแม้คนจะเยอะ แต่ก็มีความสงบสูง และให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากจนไม่อยากจะลุกไปไหน แต่ถ้าหากใครต้องการจะดื่มชาเขียว บริเวณชั้น 2 ก็มีห้องน้ำชาให้เราดื่มชาชมสวนจากบริเวณชั้นสองได้เช่นกัน
บ้านของซามูไรตระกูลโนมุระ
กำแพงบ้านที่ติดด้วยโคโมะ หรือเสื่อฟางในฤดูหนาว
บ้านของซามูไรตระกูลโนมุระ
จัดแสดงบ้านของชนชั้นซามูไร สวนภายในบ้าน มีห้องน้ำชาสำหรับดื่มชาชมสวนที่บริเวณชั้นสอง และห้องจัดแสดงจดหมายและของใช้ในอดีต
เวลาทำการ: 08:30น. – 17:30น. (ปิด 16:30น. ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม)
ปิดทุกวันที่: 26-27 ธันวาคม ค่าเข้าชม:500 เยน
http://www.kanazawa-tourism.com/eng/guide/guide1_2.php?no=3
ศาลเจ้าโอยามะ
เมื่อเที่ยวจนพอใจแล้ว ก็เดินต่อไปที่ศาลเจ้าโอยามะ ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของโครินโบ เมื่อเดินมาจนถึงประตูศาลเจ้าก็จะต้องแปลกใจกับการออกแบบที่ประหลาด ไม่เหมือนสไตล์ของญี่ปุ่นสักเท่าไร แต่ก็ถูกต้องแล้วล่ะ เพราะคนที่ออกแบบเป็นสถาปนิกชาวดัตซ์ โดยออกแบบนั้น เป็นการผสมผสานกันระหว่างสไตล์ยุโรป จีน และญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1875 แต่เดิมศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เขาอุทะสึในปี 1599 หลังจากนั้นจึงได้ย้ายมาที่ข้างปราสาทคานาซาว่าในปี 1873 และตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ว่าศาลเจ้าโอยามะ ภายในก็มีศาลเจ้าและสวนให้เดินเล่นเพลินๆ รวมถึงอนุสาวรีย์ท่านมาเอะ โทชิอิเอะ ผู้ปกครองแคว้นคากะ บุคคลผู้ที่เริ่มพัฒนาเมืองคานาซาว่าให้เจริญรุ่งเรืองในอดีตและสืบต่อเนื่องมาอีกหลายต่อหลายรุ่น
ศาลเจ้าโอยามะ
ศาลเจ้าโอยามะ
จากนั้นก็เดินทางขึ้นเหนืออีกเล็กน้อย ก็กลับมาที่ตลาดโอมิโจอีกครั้ง แวะหาอะไรกินก่อนกลับไปที่สถานีคานาซาว่า หรือจะไปหาอะไรกินที่สถานีเลยก็ได้ เมื่อมาถึงสถานีคานาซาว่าแล้ว ก็เดินหาซื้อของฝากที่สถานี ซึ่งมีของฝากอยู่เยอะแยะมากมายจนเลือกไม่ถูก เพราะอยากซื้อเต็มไปหมด ทั้งอยากได้เอง และอยากซื้อไปเป็นของฝาก โดยเฉพาะขนมนี่จะเยอะเป็นพิเศษ คนชอบกินขนมคงจะต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่นานแน่นอน
พอซื้อของฝากรวมถึงของฝากให้ตัวเองแล้วก็ได้เวลาที่จะต้องเดินทางกลับโตเกียวแล้วสิ Kagayaki 514 ก็มาจอดรอที่สถานีแล้ว คงต้องกลับจริงๆแล้วล่ะ แล้วจะกลับมาใหม่นะคานาซาว่า